Categories
BEAUTY SHOPPING

10 อันดับยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุดในปี 2022 ยี่ห้อไหนดีที่ปลอดภัย ได้ผลจริง

10 อันดับยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุดในปี 2022 ยี่ห้อไหนดีที่ปลอดภัย ได้ผลจริง

แม้ว่าเทรนด์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 เริ่มมีการสนับสนุน #RealSizeBeauty มากขึ้นหลังจากที่ Miss Universe Thailand 2021 ได้นิยามไว้ว่าไม่ว่ารูปร่างแบบไหนก็สามารถสวยได้ แต่เชื่อได้เลยว่ามีผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากที่ยังอยากมีหุ่นผอมเพรียวไซส์เล็กอยู่ เพราะความอ้วนก็อาจทำให้บางคนเกิดความไม่มั่นใจเวลาแต่งตัว ถ่ายรูป หรือไม่อยากเป็นโรคที่เกิดจากการมีน้ำหนักเกิน เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดัน หรือไขมันในเลือดสูงได้

แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าการลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องอาศัยความมีวินัยทั้งด้านการกิน, การใช้ชีวิตประจำวัน, การออกกำลังกาย และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้น้ำหนักลดลง จึงเห็นผลค่อนข้างช้าจนหลายคนเริ่มเครียดทำให้น้ำหนักไม่ลงแถมยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันนี้หลายคนจึงต้องใช้ตัวช่วยอย่าง ‘ยาลดน้ำหนัก’ เพื่อช่วยในการปรับระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

วันนี้แอดมินจึงได้รวบรวม 10 อันดับยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุดในปี 2022 มาให้สาว ๆ ได้ลองมาดูเป็นตัวเลือกกันว่าตัวคุณเองเหมาะกับยาลดน้ำหนักประเภทไหนหรือยาลดน้ำหนักของดารามีตัวไหนบ้าง โดยแต่ละแบรนด์นั่นเคลมมาว่าลดได้จริงและเป็นยาลดความอ้วนไม่ก่อให้เกิดอาการโยโย่อีกด้วย

ยาลดน้ำหนักใน 7-11 กับที่อื่นแตกต่างกันอย่างไร

ยาลดน้ำหนักใน 7-11 รวมถึงตามแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ทั่วไปอย่าง lazada หรือ Shoppee ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ เนื่องจากพื้นที่เหล่านั้นเป็นเพียงแค่พื้นที่วางจำหน่ายสินค้าในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เพราะส่วนใหญ่แล้วยาลดความอ้วนหรืออาหารเสริมลดความอ้วนแต่ละแบรนด์ที่วางขายตามร้านต่าง ๆ ก็จะมีหลากหลายประเภทให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรกัน คุณสามารถเลือกให้ตรงตามความต้องการของคุณได้โดยหลัก ๆ แล้วจะมี 7 ประเภทดังนี้

  1. ยาช่วยลดความอยากอาหาร : ยาประเภทนี้จะมีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลางในร่างกายของคนเราเพื่อช่วยลดความอยากอาหารและสามารถใช้ในการควบคุมอาหารของผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง หรือภาวะคอเลสเตอรอลสูงได้ แต่เนื่องจากยาประเภทนี้มีฤทธิ์กดระบบประสาทจึงอาจทำให้มีอาการปากแห้งหรือใจสั่นได้
  2. ยาดักจับไขมัน : โดยปกติแล้วก่อนที่ร่างกายคนเราจะดูดซึมไขมันเข้าไปได้ไขมันเหล่านั้นต้องถูกย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนเหมือนโดนกรรไกรตัด ยาประเภทนี้จึงเข้าไปจับขากรรไกรไม่ให้ตัดไขมัน ร่างกายจึงไม่สามารถดูดซึมไขมันได้และมันจะถูกถ่ายออกมาทันทีคุณจึงอาจสังเกตได้ว่าตอนถ่ายจะมีคราบมัน ๆ ออกมาด้วย
  3. ยาช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ : ผู้ที่รู้สึกว่าพยายามลดน้ำหนักแต่น้ำหนักไม่ยอมลด หรือรับประทานอาหารน้อยแต่น้ำหนักหลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม นั่นอาจจะเป็นเพราะระบบเผาผลาญในร่างกายเสื่อมจึงต้องได้รับการกระตุ้นระบบเผาผลาญ ซึ่งยาประเภทนี้จะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายของคุณให้ทำงานอย่างเป็นปกตินั่นเอง
  4. ยากระตุ้นการขับถ่าย : ยาลดความอ้วนประเภทนี้หลายคนจะคุ้นกันในชื่อ ‘ดีท็อกซ์’ ซึ่งเป็นการช่วยล้างลำไส้แก้ปัญหาท้องผูก โดยมันจะทำงานด้วยการกำจัดสารพิษที่ตกค้างในร่างกายออกมาทำให้ช่วยลดปัญหาอุจจาระไม่ออก, ลดน้ำหนัก, ช่วยลดความเสี่ยงตต่อมะเร็งลำไส้ และอาจมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นได้เนื่องจากลำไส้สะอาดมากขึ้น

ยาลดน้ำหนักได้ผลจริง ควรมีส่วนผสมดังต่อไปนี้

ยาลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ได้ผลจริง ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบจากธรรมชาติผสมอยู่ด้วย ซึ่งสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดน้ำหนักก็มีอยู่หลายชนิด อาทิเช่น

  • สารสกัดจากชาเขียว

สารสกัดชาเขียวมีสรรพคุณมากมายหลายอย่างทั้งช่วยลดการสร้างไขมัน, ลดการดูดซึมไขมัน, ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ฯลฯ ซึ่งในชาเขียวก็ยังมีสารคาเฟอีนอยู่ด้วยเช่นกันมันจึงไปช่วยกระตุ้นอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้นทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นจึงช่วยให้น้ำหนักตัวคุณลดได้นั่นเอง

  • สารสกัดจากพริกไทยดำ

สารสกัดพริกไทยดำมีรสชาติที่เผ็ดร้อนเพราะมีสารพิเพอร์รีน (piperine) ซึ่งสารตัวนี้จะช่วยทำหน้าที่ควบคุมการก่อตัวของไขมันใหม่และยังช่วยทำลายไขมันเก่าที่สะสมอยู่ในร่างกายได้อีกด้วยจึงส่งผลทำให้น้ำหนักตัวน้อยลง

  • สารสกัดจากกระบองเพชร

สารสกัดกระบองเพชรมีคุณสมบัติสำหรับการช่วยลดไขมันที่จะถูกดูดซึมเข้ามาในร่างกาย เพราะสารสกัดจากพืชชนิดนี้มีเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำช่วยทำหน้าที่ในการดักจับไขมันและเส้นใยที่ละลายน้ำช่วยสร้างเจลขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มไขมันเหล่านั้นและมันจะถูกขับออกเป็นกากอาหารทำให้ช่วยลดไขมันในร่างกายได้

  • สารสกัดเบอร์รี่สีม่วง

สารสกัดเบอร์รี่สีม่วงจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและแคลลอรี่ต่ำ ดังนั้นแล้วสารสกัดจากผลไม้ชนิดนี้จึงทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ไม่หิวง่าย และยังช่วยในด้านของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น สารสกัดชนิดนี้จึงช่วยลดความอ้วนได้

  • สารสกัดจากทับทิม

สารสกัดจากทับทิมเรียกได้ว่ามีสรรพคุณที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี โดยมันจะเข้าไปช่วยลดระดับไขมันที่สะสมอยู่ให้น้อยลงและอาจมีส่วนช่วยในการลดไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และลดไขมันในผู้ป่วยเบาหวานได้อีกด้วย

กินยาลดความอ้วนอย่างไรให้ได้ผล

สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากลองกินยาลดความอ้วน, ยาลดน้ำหนัก หรืออาหารเสริมลดความอ้วนอยู่ คุณต้องทำความเข้าใจประเภทของยาที่คุณเลือกกินก่อนว่ามีการออกฤทธิ์แบบไหนและการใช้ยาเพื่อเป็นตัวช่วยก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถกินอาหาร Juke Food มากเท่าไหร่ก็ได้เหมือนกัน มาดูกันว่าคุณต้องกินยาลดความอ้วนอย่างไรให้ได้ผลหากต้องการไปให้ถึงหุ่นในฝันตามเป้าหมาย

  • เลือกยาลดความอ้วนที่ได้มาตรฐาน

สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยหากจะกินยาลดน้ำหนักให้ได้ผลและปลอดภัย คุณต้องเลือกยาหรืออาหารเสริมลดความอ้วนที่ได้มาตรฐานที่มีการรับรองจาก อย. และอย่าลืมนำเลข อย. ไปเช็คด้วยว่าเป็นของจริงไหมโดนสวมหรือปลอมหรือเปล่า

  • รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ

แม้ว่าคุณจะกำลังลดน้ำหนักอยู่แต่ก็ควรกินอาหารให้ครบทุกมื้อไม่ควรอดอาหาร เพราะการที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องในขณะที่กินยาลดความอ้วนด้วยนั้นถือเป็นการไปทำร้ายระบบเผาผลาญ เมื่อเลิกกินยาแล้วกลับไปกินอาหารตามปกติสิ่งนี้จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าโยโย่เอฟเฟก์อีกด้วย ดังนั้นแล้วควรกินอาหารตามปกติหลังจากเลิกกินยาจะได้ไม่มีผลกระทบตามมา

  • พักผ่อนให้เพียงพอ

ผู้ที่กำลังมีเป้าหมายในการลดน้ำหนักบางคนอาจจะกังวลเรื่องน้ำหนักตัวมากเกินไป ต้องชั่งน้ำหนักทุก ๆ ชั่วโมงแม้ในตอนหลังปัสสาวะก็ตามอาจเกิดความเครียดและทำให้นอนไม่หลับได้ ซึ่งการนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอร่างกายจะหลั่งสาร Growth Hormone ที่จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญและยังมีฮอร์โมนแลปตินที่ช่วยระงับความหิวจึงทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

หากคุณเป็นคนที่ชอบกินของมัน ของทอด หรืออาหารฟาสฟู๊ดเป็นชีวิตจิตใจ คุณต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไปถึงเป้าหมายหุ่นในฝันให้เร็วขึ้น ซึ่งถึงแม้จะมีตัวช่วยอย่างยาลดความอ้วนแต่คุณก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายหุ่น อีกทั้งยังห่างไกลจากโรคร้ายด้วย

  • ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

หากคุณออกกำลังกายเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งแบบเบา ๆ ไม่ต้องหนักมากตามวิดีโอในยูทูบสักครั้งละ 15-30 นาทีเท่านั้นคุณก็สามารถมีหุ่นสวย ๆ ได้ ยิ่งคุณกินยาประเภทช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญพร้อมกับการออกกำลังกายไปด้วยมันก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายของคุณสามารถเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยเช่นกัน

10 อันดับยาลดน้ำหนักตัวไหนดี ที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจน และลดได้จริง!

1.อาหารเสริมลดน้ำหนัก Slenza

herworldthai-ยาลดน้ำหนัก-Slenza

อาหารเสริมลดน้ำหนักที่ขายดีตลอดกาล Slenza – สเลนซ่า เรียกได้ว่าเป็นยาลดน้ำหนักที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า เพราะได้นำเอาสารสกัดจาก Leptivate ประสิทธิภาพสูงลิขสิทธิ์เจ้าแท้เดียวจากประเทศอเมริกาและสารสกัดชาเขียวลิขสิทธิ์อย่าง Green Tea Extract (Innova Tea®) รวมไปถึงสารสกัดลิขสิทธิ์ Chitosan (Kionutrime-Bloc®) ที่ไม่มีใครสามารถทำซ้ำหรือลอกเลียนแบบได้

สเลนซ่า ผ่านการรับรองจาก อย. มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งความอยากอาหาร รู้สึกอิ่มเร็วกว่าที่เคยโดยไม่ต้องกินเยอะ กินน้อย หิวยาก ดูแลตั้งแต่ต้นเหตุของความอ้วน ช่วยในการดักจับไขมัน ลดความหิวก่อนนอน และยังมีไฟเบอร์หรือใยอาหารช่วยทำให้อิ่มไม่กินจุกจิกตอนกลางคืน ตัวเดียวครบ อยากผอมต้องลอง Slenza

จุดเด่น : มีส่วนผสมของ Leptivate ลดความอยากอาหารด้วยการควบคุมที่ฮอร์โมน และมีส่วนผสมของสารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) สารสกัดจากพริกไทยดำ (Black Pepper Extract) L-Carnitine มีใยอาหารสูง

ราคา490 บาท
1 กล่องบรรจุ10 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้10 วัน
เลขที่ อ ย.11-1-13958-5-0202

2. อาหารเสริมดีท็อกส์ ลดน้ำหนัก Labelle

herworldthai-ยาลดน้ำหนัก-Labelle

หากไม่ค่อยแฮปปี้ที่ต้องพกแคปซูล ลองมาดูผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดีท็อกซ์ลำไส้ ยี่ห้อ Labelle สูตรนี้จะเลือกใช้สารสกัดจากพืชธรรมชาติมากถึง 15 ชนิด โดยเฉพาะไฟเบอร์และใยอาหารต่าง ๆ เหมาะกับสาว ๆ ที่อยากมีหุ่นดี ตื่นมาพุงยุบ ถ่ายคล่อง ด้วยสมุนไพรล้างสารพิษในลำไส้ เน้นสารสกัดอาหารเสริมที่ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ 100% เป็นหนึ่งในอาหารเสริมดีท็อกซ์ลดน้ำหนัก มี อย. ปลอดภัย ที่รับประทานแล้วได้ร่างใหม่แน่นอน กลิ่นหอมหวานและรสชาติของเหล่าส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งจากผลไม้ วิตามิน สมุนไพรต่าง ๆ ช่วยให้ดื่มง่ายมาก ใครที่ท้องผูกจนพุงป่องต้องถูกใจเป็นพิเศษ ตัวนี้นอกจากจะช่วยล้างสารพิษในลำไส้แล้วยังช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาทำงานได้ปกติ ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมในการกดประสาท สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ง่าย ๆ แค่ชง Labelle ก่อนนอนเพียง 1 ซองเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรหลีกเลี่ยงการกินคู่กับนมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท

จุดเด่น : มีส่วนผสมของสารสกัดจากกระบองเพชร ช่วยเผาผลาญสลายไขมัน สารสกัดเบอร์รี่สีม่วง มีใยอาหารสูง และวิตามินรวม ช่วยบำรุงผิวพรรณดูกระจ่างใส

ราคา 690 บาท
1 กล่องบรรจุ10 ซอง (15 กรัม)
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้10 วัน
เลขที่ อ ย.11-1-13958-5-0296

3. BodyKey (Amway) บอดี้คีย์ แอมเวย์

herworldthai-BodyKey-(Amway)

ยาลดน้ำหนักสำหรับผู้ชายที่ดีที่สุด BodyKey แบรนด์ที่น่าเชื่อถือจาก AMWAY เป็นโปรตีนลดความอ้วนมีหลายรสชาติให้เลือกทั้ง รสช็อกโกแลต รสวนิลลา และรสกาแฟ 1 กล่อง สามารถทานได้นานถึง 14 วัน ส่วนประกอบที่สำคัญ คือโปรตีน ใยอาหาร วิตามิน โปรตีนลดความอ้วน กินไปอิ่มไป ไม่หิว ไม่มีไขมัน นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่ที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และมีส่วนช่วยในการขับถ่าย เพราะมีไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ช่วยให้อิ่มด้วยโปรตีน เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยไม่พึ่งพายาลดความอ้วน และแบรนด์ยังเคลมอีกว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารร่วมกับการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ สามารถควบคุมและลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่น : มีส่วนผสมของโปรตีน ใยอาหาร วิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน มีส่วนช่วยในการขับถ่าย เพราะมีใยอาหาร ช่วยให้อิ่ม มีหลายรสชาติให้เลือก รสช็อกโกแลต รสวนิลลา และรสกาแฟ

ราคา 1,150 บาท
1 กล่องบรรจุ14 ซอง
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้14 วัน
เลขที่ อ ย.10-3-00745-1-0049

4.Amado R อมาโด้ อาร์

herworldthai-ยาลดน้ำหนัก amado R

ยาลดความอ้วนของคุณ เชน ธนา ที่ผลิตจากสมุนไพรส้มแขกจึงช่วยระบายและดีท็อกซ์แบบธรรมชาติ มีสาร HCA ที่มีคุณสมบัติช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินในขณะนอนหลับรวมถึงช่วยในเรื่องพฤติกรรมการกินทำให้อิ่มไวขึ้น ไม่อยากกินจุกจิก อมาโด้ อาร์ ยังมีสารสกัดจากแอปเปิ้ลที่มีใยอาหารสูง จึงช่วยเรื่องขับถ่ายเป็นอย่างดี ลดการดูดซึมไขมันน้ำตาล และช่วยขับสารพิษ กระบวนการผลิตปลอดภัยทุกขั้นตอน รองรับด้วยเครื่องหมายอย. กินได้อย่างสบายใจ

จุดเด่น : ผลิตจากสมุนไพรส้มแขก จะช่วยระบายและดีท็อกซ์แบบธรรมชาติ มีสารสกัดจากแอปเปิ้ล ใยอาหารสูง

ราคา590 บาท
1 กล่องบรรจุ10 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้10 วัน
เลขที่ อ ย.74-1-07455-5-0270

5. Chimz

herworldthai-ยาลดน้ำหนัก-ลดความอ้วน-Chimz

Chimz เป็นอาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติล้วน ๆ ซึ่งจะช่วยดูแลรูปร่างให้กระชับสมส่วน ควบคุมน้ำหนักได้ ชิมซ์เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่น้ำหนักลงยาก หรือลองวิธีอื่น ๆ มาแล้วไม่ได้ผล ส่วนผสมใน Chimz มีส่วนผสมมากกว่า 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากส้มแขก สารสกัดจากผงบุก สารสกัดจากกระบองเพชร ถั่วขาว โคเอนไซม์คิวเท็น เป็นต้น สารเหล่านี้จะช่วยลดไขมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญคุณแม่หลังคลอด ยังสามารถใช้ได้ด้วย

จุดเด่น : มีส่วนผสมของสารสกัดต่างๆ มากกว่า 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากส้มแขก ผงบุก กระบองเพชร ถั่วขาว Coenzyme Q10 เป็นต้นรวมถึงมี CLA ที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันส่วนเกิน

ราคา550 บาท
1 กล่องบรรจุ10 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้10 วัน
เลขที่ อ ย.65-1-28760-5-0002

6.Ssure

Ssure เป็นยาลดน้ำหนักของดาราซึ่งก็คือคุณ นุ้ย สุจิรา โดยสโลแกนของผลิตภัณฑ์นี้ก็คือ Block Bright Burn Build Boost Balance คือจะช่วยยับยั้งแป้งและไขมันใหม่เข้าสู่ร่างกายด้วยสารสกัดจาก Green coffee bean ที่อุดมไปด้วยกรดคอลโลจีนิค ทำให้ลดการสะสมแป้งได้ดี และยังช่วยยับยั้งการสร้างไขมันพร้อมทั้งทำลายไขมันเก่าได้ด้วยจากสารสกัด Black Pepper ที่มีสาร Piperine นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจาก Capsicum ที่มีตัว Apsaisin ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารในร่างกายได้ รวมถึงยังช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้เลือกหมุนเวียนได้ดีขึ้น

จุดเด่น : อุดมไปด้วยส่วนผสมจากสารสกัดมากมายทั้งจากธรรมชาติและกรดต่าง ๆ ที่ช่วยลดการสะสมของไขมัน รวมถึงยังช่วยในด้านของระบบเผาผลาญและปรับสมดุลของร่างกาย

ราคา599 บาท
1 กล่องบรรจุ15 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้7-15 วัน
เลขที่ อ ย.13-1-15859-5-0646

7. Clover Plus Chitosan

Clover Plus Chitosan

Clover Plus Chitosan เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักที่มีสารสกัดจากไคโตซานชนิดที่ดีที่สุดของใบโคลเวอร์จึงมีประสิทธิภาพในการช่วยดักจับไขมันได้สูง สามารถควบคุมระดับคลอเรสเตอรอลและไขมันในเส้นเลือดได้อย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายและต้องการควบคุมน้ำหนัก

จุดเด่น : มีส่วนประกอบของไคโตซานจากธรรมชาติชนิดที่ดีที่สุด โดยใน 1 แคปซูลจะประกอบไปด้วยไคโตซาน 500 MG ทำให้มีประสิทธิภาพในการช่วยดักจับไขมันได้อย่างดี

ราคา249 บาท
1 กล่องบรรจุ30 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้30 วัน
เลขที่ อ ย.10-1-17656-1-0008

8.Callox

Callox

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลล็อกซ์ ปลอดภัย ได้มาตรฐานการผลิตระดับโลกรวมถึงได้รับสิทธิบัตรรับรองจากเกาหลีในการรับประกันคุณภาพและมีเครื่องหมายฮาลาลรับรอง ซึ่งได้รับการคิดค้นจากผู้เชี่ยวชาญมากมายโดยได้นำสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่ว่าจะเป็น เห็ดแชมปิญอง, ผงหม่อน, สาหร่ายสีน้ำตาล, สารสกัดจากยีสต์ และเมล็ดกาแฟไม่คั่วมาช่วยช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญ ลดอายุเซลล์ในร่างกาย ยับยั้งการสะสมของไขมัน แป้ง น้ำตาล และไม่ใช้ยาเป็นส่วนผสม

จุดเด่น :  ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ 100% ในการช่วยดักจับไขมันจากอาหาร ชะลอการดูดซึมของแป้งและน้ำตาล รวมถึงช่วยเผาผลาญไขมันและลดไขมันสะสมในร่างกาย

ราคา1,590 บาท
1 กล่องบรรจุ30 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้15-30 วัน
เลขที่ อ ย.74-1-07455-5-0370

9.Morosil XS

Morosil XS

Morosil XS ผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักชื่อดังจากแบรนด์ Wink White ที่ได้มีการปรับปรุงสูตรใหม่ล่าสุดในปี 2021 ให้คุณเสกหุ่นเอสได้ดั่งใจด้วยสารสกัดจากส้มสายพันธุ์ Moro ที่ได้นำเข้าจากประเทศอิตาลี มีคุณสมบัติในการช่วยเผาผลาญไขมันเก่าและยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ ขจัดกากอาหารของเสียในแต่ละวัน เพิ่มระบบการเผาผลาญให้กับร่างกาย และยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอีกมากมาย อาทิเช่น ส้ม ทับทิม สารสกัดจากชาเขียว ไคโตซาน และผงกีวีสีทอง เป็นต้น 

จุดเด่น : เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการปรับปรุงสูตรใหม่ล่าสุดในปี 2021 โดยได้นำเอาสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดมายับยั้งด้านการเกิดไขมันใหม่และสลายไขมันเก่า ทานได้ทั้งคนที่ดื้อยาและไม่ดื้อยา

ราคา249 บาท
1 กล่องบรรจุ15 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้15 วัน
เลขที่ อ ย.11-1-10063-5-0008

10. Matane

Matane

Matane Dietary Supplement Product ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านการใช้ยาลดน้ำหนักมาเยอะและดื้อยา หรือสำหรับผู้ที่อ้วนมาแต่กำเนิดก็สามารถรับประทานได้ โดยมีส่วนประกอบจาก L-Carnitine L-Tartrate ที่ช่วยลำเลียงไขมันเข้าไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้เกิดการนำไขมันไปใช้เป็นพลังงานจึงช่วยลดการสะสมของไขมันได้ และยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากทับทิม เปลือกสน เมล็ดองุ่น ส้มแขก ผงขิง และผงดอกคำฝอยที่ช่วยการอุดตันของไขมันในหลอดเลือดและช่วยลดความอยากอาหารได้

จุดเด่น : ผู้ที่ใช้ยาลดน้ำหนักมาเยอะหรือผู้ที่ดื้อยาสามารถรับประทานได้ เห็นผลจริง ด้วยสารสกัดจาก L-Carnitine L-Tartrate และสารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายชนิดที่ช่วยลดการสะสมของไขมันและเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้

ราคา240 บาท
1 กล่องบรรจุ10 แคปซูล
จำนวนวันที่สามารถรับประทานได้10 วัน
เลขที่ อ ย.76-1-17557-1-0061

ยาลดน้ำหนักทั้ง 10 แบรนด์ที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนี้ก็เป็นกลุ่มยาประเภทที่แตกต่างกันทั้งในด้านคุณสมบัติและสารสกัดต่าง ๆ ที่สาว ๆ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของร่างกายและวัตถุประสงค์ในการลดน้ำหนักของแต่ละคนได้เลย ซึ่งแบรนด์ทั้งหมดนี้เป็นอาหารเสริมลดความอ้วนมี อย. ได้ผลดีสุด และที่สำคัญอย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วยนะคะ

Categories
LIFESTYLE SHOPPING

ออกกำลังกายอยู่บ้าน ด้วยอุปกรณ์ทั้ง 7 แบบไม่ง้อฟิตเนส

ออกกำลังกายอยู่บ้าน แบบไม่ง้อฟิตเนส

( ออกกำลังกายอยู่บ้าน แบบไม่ง้อฟิตเนส ) ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด หลายคนส่วนใหญ่เลือกกินอาหารสุขภาพ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีหุ่นที่สวยสมส่วน พร้อมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่เมื่อเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ขึ้น หลายคนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ทำให้ห่างหายจากการออกกำลังกาย หุ่นที่เคยดี ก็เริ่มมีไขมันเข้ามาแทน ด้วยเหตุดังกล่าว จึงทำให้หลายคนเริ่มมองหาการออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน สำหรับคนที่อยากจะกลับมาฟิตหุ่นให้สวยเพรียวอีกครั้ง และวันนี้เราก็มี 5 อุปกรณ์ออกกำลังกายแบบไม่ต้องง้อฟิตเนสมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ ฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด-19 ได้จริงหรือไม่? 7 ข้อต้องรู้ก่อนเลือกกินฟ้าทะลายโจร

อุปกรณ์ออกกำลังกายง่ายๆ ฟิตร่างกายที่บ้านโดยไม่ง้อฟิตเนส

เมื่อตั้งใจจะออกกำลังกายที่บ้าน ว่าแต่คุณลองเช็กดูหรือยังว่าภายในบ้านมีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพครบถ้วนหรือไม่ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าควรมีไอเท็มอะไรเด็ดๆ เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายที่บ้านง่ายขึ้น เรามี 7 อุปกรณ์ออกกำลังกายง่ายๆ มาฝากกันแล้ว ดังนี้

1.เสื่อโยคะ

เสื่อโยคะ

เริ่มกันที่อุปกรณ์พื้นฐานที่ทุกคนควรมีติดบ้านไว้ อย่างเสื่อโยคะ เพราะการออกกำลังกายแบบโยคะ ร่างกายจะต้องติดกับพื้นตลอดเวลา ซึ่งเสื่อจะช่วยรองรับน้ำหนักและป้องกันอันตรายให้คุณจากพื้นผิวแข็งๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ออกกำลังกายในกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเวทเทรนนิ่ง การซิทอัพ การวิดพื้นได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์

2.ดัมเบล

ดัมเบล

สำหรับหนุ่มๆ สายเพาะกล้าม และอยากมีหุ่นเฟิร์มๆ ไว้อวดสาวๆ ดัมเบลคืออุปกรณ์สำคัญที่ต้องมี เพราะดัมเบลถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการสร้างกล้ามเนื้อแขน และกล้ามเนื้อหลังได้ อีกทั้งยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อของคุณได้อย่างดี เป็นการเวทเทรนนิ่งแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน

3.เชือกกระโดด

เชือกกระโดด

ต่อด้วยอุปกรณ์ที่หาง่าย ราคาถูก อย่างเชือกกระโดด ที่มีให้คุณเลือกหลายแบบ หลายราคา มีตั้งแต่ถูกมากจนแพงมาก แต่คุณภาพก็แตกต่างกันไป ใครที่อยากออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน ลองเริ่มจากกระโดดเชือก จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้อย่างเต็มที่ แถมดีต่อสุขภาพร่างกายของคุณอีกด้วย

4.ลูกบอลออกกำลังกายลูกบอลออกกำลังกาย

ลูกบอลออกกำลังกาย จัดเป็นไอเท็มสำคัญที่สาวๆ ต้องมีติดบ้านไว้ เพราะช่วยให้การออกกำลังกายของคุณ มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะเจ้าลูกบอลจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและทำให้รูปร่างของคุณสมส่วน ช่วยกระชับไขมันบริเวณหน้าท้อง สะโพก ก้น แขนและขา แทบจะบริหารได้ทุกส่วนของร่างกาย ถือเป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าต้องการลงทุนอย่างมาก

5.ยางยืดออกกำลังกาย

ยางยืดออกกำลังกาย

การบริหารร่างกาย สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ และหลายอุปกรณ์ ซึ่งยางยืดออกกำลังกาย จะช่วยคุณบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้เช่นกัน อีกทั้งยังเล่นได้ง่าย มีราคาถูก แต่ให้ประสิทธิภาพอย่างดีเยี่ยม คุณสามารถเล่นได้หลายท่า ช่วยให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง แต่สาวๆ คนไหนที่ยังเล่นไม่เก่ง แนะนำให้เปิดวิดีโอจากยูทูปแล้วทำตามทีละขั้นตอน จะช่วยให้คุณเล่นได้อย่างถูกท่าและเหมาะสมต่อร่างกาย

6.ฮูลาฮูป

ฮูลาฮูป

ตัวช่วยสุดเวิร์คสำหรับคุณสาวๆ ต้องยกให้กับ “ฮูลาฮูป” ถือเป็นตัวช่วยชั้นดี ที่จะช่วยคืนรูปร่างผอมเพรียวและหุ่นเอวเอส ให้กับสาวๆ ได้อย่างรวดเร็ว ใครที่มีปัญหาไขมันหน้าท้อง การเล่นฮูลาฮูปจะช่วยกำจัดไขมันบริเวณนั้นได้ แถมช่วยให้คุณมีสุขภาพดี และร่างกายแข็งแรง สาวๆ คนไหนที่ยังไม่มี ถือว่าพลาดมาก!

7.จานทวิส

จานทวิส

จานทวิสถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณสามารถลดน้ำหนัก และมีรูปร่างที่สวยสมส่วนได้ง่ายๆ แถมยังทำให้มีเอว S ได้ง่ายอีกด้วยเช่นกัน เนื่องจากจานทวิสเล่นไม่ยาก เพียงขึ้นไปเหยียบบนจานแล้วหมุนบิดตัวไปมาขวา-ซ้าย อาจจะฟังเพลงจังหวะมันส์ๆ หรือดูซีรีส์เรื่องโปรดไปด้วยก็ได้ รับรองใช้เวลาสัก 30 นาที คุณจะได้รับการเบิร์นแคลอรีไปได้พอสมควรแน่นอน ทำทุกวันบ่อยๆ รูปร่างจะเปลี่ยนไป แถมสุขภาพก็ดีขึ้น ถือเป็นอุปกรณ์ที่เล่นง่าย เพลินๆ ที่ควรมีติดบ้านอย่างยิ่ง

7 วิธีออกกำลังกายที่บ้าน ได้ครบทั้งหุ่นสวย สุขภาพดี !

แม้หลายคนจะมองว่าการออกกำลังกายที่บ้านเป็นเรื่องยาก แถมจะต้องกังวลถึงพื้นที่ในการออกกำลังกาย และท่าทางที่จะถูกหลักหรือไม่ แต่แท้จริงแล้วการออกกำลังกายไม่ว่าจะที่ไหนก็ทำได้ง่ายมาก เพียงคุณเลือกกิจกรรมให้เหมาะสมต่อพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่คุณมีอย่างจำกัด ก็จะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายที่บ้านได้ อีกทั้งเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น คุณสามารถเปิดคลิปวิธีการเล่น หรือดูจากครูผู้สอนได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเล่นได้อย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้นลองมาดูกันว่ากิจกรรมใดบ้างที่ช่วยให้คุณออกกำลังกายในบ้านได้

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ โคโรน่าไวรัส ยังวิกฤต คนมีคู่ควรพัก เรื่องบนเตียงจริงไหม

1.เวทเทรนนิ่ง

สำหรับสายสุขภาพ เชื่อว่าต้องมีอุปกรณ์สำหรับเวทเทรนนิ่ง อย่างดัมเบล ติดบ้านไว้บ้าง เพราะจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ง่าย ยามที่ไม่ได้ไปฟิตเนส ทำให้ในช่วงที่คุณต้องกักตัวอยู่บ้าน หากอยากฟิตหุ่นให้เฟิร์ม ไม่อยากปล่อยให้หุ่นต้องพัง การเวทเทรนนิ่งจะช่วยคงสภาพของหุ่นคุณไว้ได้ นอกจากจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อแล้ว ยังทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงอีกด้วย ยิ่งหากใครที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน อาจเริ่มง่ายๆ ด้วยการยกขวดน้ำปริมาณ 1-2 ลิตร ประมาณ 10-15 ที ยกสลับแขนไปมา 3 เซ็ท จะช่วยให้คุณออกกำลังกายทดแทนอุปกรณ์ในฟิตเนสได้เช่นกัน แถมเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว

2.กระโดดเชือก

ต่อมาคือการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย อย่างการ “กระโดดเชือก” ที่หลายคนน่าจะมีอุปกรณ์นี้ติดบ้านเอาไว้ เพราะมีขนาดเล็กพกพาง่าย มีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งหากคุณเลือกใช้เชือกแบบเส้นใหญ่ จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้อย่างดี เพราะเชือกจะหนักทำให้คุณต้องออกแรงเหวี่ยงเพิ่ม ซึ่งการกระโดดเชือก ช่วยให้คุณเบิร์นแคลอรี่ได้มากถึง 660-990 ต่อชั่วโมง โดยคุณต้องโดดไม่น้อยกว่า 120 ครั้งต่อนาที แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่อาจเริ่มจะทีละน้อยและค่อยพัฒนาความเร็วไปเรื่อยๆ ได้

ออกกำลังกายที่บ้าน

3.โยคะ

กีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ ออฟฟิศ คนทำงานประจำ หรือแม่บ้านทั่วไป “โยคะ” ถือเป็นการออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนเหล่านี้อย่างมาก เพราะสามารถเล่นได้ง่าย ประหยัดพื้นที่ แถมเต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย ซึ่งใครที่เพิ่งเริ่มเล่นอาจต้องหาข้อมูล หรือคลิปวิดีโอสอนการเล่นทางยูทูป เพื่อให้คุณได้ฝึกเล่นตาม ส่วนคนที่มีทักษะอยู่แล้ว อาจดูแค่ท่าแล้วฝึกตามง่ายๆ ที่บ้าน เป็นการออกกำลังกายที่ดูเหมือนง่าย แต่กลับใช้สมาธิอย่างมาก ใครที่มีปัญหาการปวดเมื่อยตามตัว หรือเป็นออฟฟิศซินโดรม โยคะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้

4.แอโรคบิค / เต้นตามยูทูป

ใครที่เบื่อการออกกำลังกายแบบเดิมๆ อยากหาอะไรใหม่ๆ ทำ “การเต้น” เป็นวิธีการออกกำลังกายที่น่าสนใจอย่างมาก อีกทั้งช่วยทำให้คุณแข็งแรงไม่แพ้กีฬาอย่างว่ายน้ำ หรือฟุตบอล ฯลฯ การเต้นนอกจากจะทำให้คุณสนุกสนานแล้ว ยังส่งผลดีต่อหัวใจด้วย เพราะการเต้นช่วยบริหารหัวใจ การกำหนดลมหายใจ ที่ทำให้ร่างกายเป็นระบบมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักได้อย่างดี เพราะมีผลการวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา บอกว่าการเต้น สามารถเบิร์นแคลอรีได้เทียบเท่ากับ การปั่นจักรยานและการวิ่ง จึงไม่แปลกที่จะเห็นสาวๆ หลายคนเริ่มออกมาเต้นกันมากขึ้น

5.เล่นฮูลาฮูป

เอาใจคุณสาวๆ ที่ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินไป อยากออกกำลังกายง่ายๆ ในห้องนอนได้ การเล่นฮูลาฮูปถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้แรงมากนัก แต่ต้องมีสมาธิและโฟกัสกับห่วงที่เอวอย่างตั้งใจ แถมฮูลาฮูป ยังช่วยให้คุณเผาผลาญไขมันได้อย่างดีเยี่ยม หากคุณเล่นฮูลาฮูป 1 ชั่วโมง สามารถเบิร์นแคลอรีได้มากถึง 400 แคลด้วยกัน และอาจสูงถึง 600 อยู่ที่ความเร็วและความแรงในการควบคุม สาวๆ คนไหนอยากมีกล้ามท้อง หรือลดไขมันตรงพุง ลองเล่นฮูลาฮูป รับรองซิกแพคมาแน่

เล่นฮูลาฮูป

6.ว่ายน้ำ

สำหรับคนที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่แทบไม่มีโอกาสได้ว่ายเลย เนื่องจากต้องทำงานไม่มีเวลามากนัก ในช่วงนี้ที่คุณต้องกักตัวอยู่บ้าน ถือเป็นโอกาสอันดี ที่คุณจะได้ออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำ อย่างที่ทราบกันว่าการว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุด เพราะคุณสามารถบริหารกล้ามเนื้อได้ทุกส่วนของร่างกายไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค และเสริมภูมิต้านทานได้อย่างดีเยี่ยม แถมการว่ายน้ำยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ แต่ขอย้ำว่าคุณต้องว่ายอยู่ในสระของที่บ้าน ไม่ควรออกไปว่ายตามสระว่ายน้ำสาธารณะในช่วงโรคระบาดนี้

7.การทำงานบ้าน / จัดโต๊ะทำงาน

จำได้หรือไม่ ครั้งสุดท้ายที่คุณทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ หรือที่เรียกกว่า “Big Cleaning Day” คือเมื่อไหร่? ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ บ้านห่างหายจากการทำความสะอาดบ้านครบทุกซอกทุกมุม เพราะไม่มีเวลามากขนาดนั้น แต่ในช่วงนี้คุณมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำให้บ้านกลับมาสะอาด และปราศจากเชื้อโรค อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าไวรัสสามารถติดผ่านเสื้อผ้าหรือของใช้ของคุณได้ และไม่แน่ว่าในบ้านคุณอาจมีไวรัสซ่อนอยู่ ดังนั้นการลุกขึ้นมาเก็บของที่ไม่ใช้แล้วเข้าที่ เช็ด กวาด ถู ลงน้ำยาทำความสะอาดเรียบร้อย จะทำให้คุณมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่า บ้านของคุณสะอาดปราศจากเชื้อไวรัส 100%

ข้อดีของการออกกำลังกายที่บ้าน

การออกกำลังกายเต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย ถึงแม้คุณจะไม่ได้ออกกำลังกายในฟิตเนส สนามหญ้า หรือสถานที่เฉพาะ แต่เป็นการออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน ก็จะช่วยให้คุณได้ผลดีต่อร่างกายได้เช่นกัน เพราะการออกกำลังกาย เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพ และทำให้รูปร่างของคุณสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นลองมาดูข้อดีของการออกกำลังกายที่บ้านกัน

1.ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19

เพราะไวรัสจะแสดงอาการได้ดีกับผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นการที่คุณหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรักษาสุขภาพ สุขอนามัย เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้คุณติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่อย่าชะล่าใจ เพราะมีนักกีฬาดังหลายต่อหลายคนที่ติดโรคนี้ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัด คือคนที่แข็งแรงจะสามารถต่อสู้กับโรคได้อย่างดี และสามารถหายจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

2.ออกกำลังกายได้ทันที

หลายคนมักพูดเสมอว่า ฉันต้องไปออกกำลังกาย พรุ่งนี้จะเริ่มไปวิ่ง จะเข้าฟิตเนส แต่พอถึงเวลาจริงก็ไม่ได้ไปสักที จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ก็ไม่เกิดการลงมือทำ ซึ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ หลายคนเลือกออกกำลังกายที่บ้านมากขึ้น เพราะสามารถลงมือทำได้ทันที และสะดวกรวดเร็ว ยิ่งหากมีอุปกรณ์ครบถ้วน จะทำให้การตัดสินใจลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เป็นไปได้ง่ายกว่า การต้องตัดสินใจไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสนั่นเอง

3.ไม่ต้องเจอกับอากาศร้อนจัด

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศที่ร้อนอย่างมาก ก้าวขาออกจากบ้านแต่ละทีแทบไหม้ ทำให้การออกกำลังกายอยู่บ้าน จะช่วยทำให้ผิวพรรณของคุณไม่ถูกทำลายจากแสงแดด อีกทั้งไม่เสี่ยงต่อการเกิดฮีทสโตรก หรืออาการที่ร่างกายมีความร้อนมากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นการออกกำลังกายอยู่บ้านจะช่วยให้คุณไม่ต้องออกไปเสี่ยงกับโรคต่างๆ เหล่านี้ได้

ออกกำลังกายที่บ้าน-โควิด

4.ออกได้ไม่จำกัดเวลา

บางครั้งการไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส อาจมีเวลาเปิดปิด ทำให้บางคนไม่สามารถไปออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นด้วยไลฟ์สไตล์ ที่มีเวลาการทำงานที่ไม่แน่นอน แต่เมื่อคุณได้ออกกำลังกายที่บ้าน คุณสามารถดีไซน์แผนการออกกำลังกายได้ทุกรูปแบบ อีกทั้งออกกำลังกายได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าจะดึกไป หรือเช้าเกินไป แต่จงจำไว้การพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายของคุณสมบูรณ์แข็งแรงนั่นเอง

5.ไม่ต้องเสียเงินไปกับการเข้าฟิตเนส

หลายคนที่เคยสมัครเป็นเมมเบอร์ฟิตเนสก็อาจจะต้องเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ หากติดวิกฤตโควิด แต่หากที่ยังไม่ได้สมัครและหันมาออกกำลังกายอยู่ที่บ้านในช่วงวิกฤตนี้ คุณจะพบว่าการได้ออกกำลังกายที่บ้านนั้น ไม่ต้องทำให้คุณต้องสิ้นเปลืองเงินไปกับการสมัครเข้าเล่นฟิตเนสแต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเส้นเปลืองเงินและเวลาในการเดินทางไปฟิตเนสด้วย เผลอๆ บางรายอาจจะต้องจ้างเทรนเนอร์ให้เปลืองมากขึ้นไปอีก แต่หากคุณออกที่บ้านด้วยตนเอง โดยอาจจะเปิดดูคลิปการออกกำลังกายตามยูทูปแล้วทำตาม รับรองเลยว่าคุณจะรู้สึกสนุกและติดใจ แม้ว่าโควิดผ่านไป คุณก็อาจจะไม่อยากไปออกกำลังกายนอกบ้านแล้วก็เป็นได้

ข้อควรระวังในการออกกำลังกายที่บ้าน

แม้ว่าการออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อร่างกายมากมาย แต่ถ้าคุณออกกำลังกายได้ไม่ถูกวิธี หรือเกินความต้องการของร่างกาย อาจส่งผลให้คุณเกิดอาการบาดเจ็บ หรือเป็นปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นลองมาดูข้อควรระวังในการออกกำลังกายที่บ้าน เพื่อช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

1.กล้ามเนื้ออักเสบ

หลายคนที่รู้สึกผิดต่อร่างกาย เพราะในช่วงนี้มีการกินอาหารที่มากเกินไป เลยทำให้เกิดความรู้สึกอยากออกกำลังกายและกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปทั้งหมด จึงทำให้หักโหมกับการออกกำลังกายอย่างมาก ซึ่งการออกกำลังกายที่มากเกินไป จะเกิดความเสี่ยงที่กล้ามเนื้อของคุณจะบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่ชอบเวทเทรนนิ่งการยกน้ำหนักที่มากเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อฉีกได้ ดังนั้นจงออกกำลังกายแต่พอดี และเหมาะสมต่อร่างกายของคุณ

2.อาจไม่สะดวกต่อสภาพแวดล้อมรอบข้าง

การออกกำลังกายที่บ้าน หากคุณเล่นโดยไม่ศึกษาหรือขาดความเข้าใจ อาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้ข้าวของในบ้านเสียหายได้ อย่างเช่น ลูกบอลออกกำลังกาย หากคุณสาวๆ เล่นผิดวิธี อาจทำให้ลูกบอลกระเด้งไปทั่วห้อง เสี่ยงจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ภายในบ้านของคุณหล่นลงมาได้ หรือการเล่นกระโดดเชือก ซึ่งการกระโดดโดยเฉพาะคนที่อยู่หอพักจะต้องระวังสักนิด เพราะอาจจะทำให้คนที่อยู่ชั้นล่างรู้สึกรำคาญได้เช่นกัน

3.ออกกำลังกายได้ไม่ตรงจุด

เมื่อคุณขาดความรู้และความเข้าใจในการออกกำลังกาย จะส่งผลให้การออกกำลังกายของคุณไม่มีประสิทธิภาพได้ ยกตัวอย่างเช่น การเวทเทรนนิ่ง หากยกไม่ถูกท่า หรือใส่น้ำหนักที่น้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อใหม่ได้ ส่งผลให้การออกกำลังกายของคุณไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นศึกษาวิธีการออกกำลังกาย ก่อนการลองเล่นทุกครั้ง

การอออกำลังกายที่้บ้าน

4.ออกกำลังกายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

บางคนที่เคยไปออกกำลังกายตามฟิสเนส หรือไปวิ่งตามสวนสาธารณะ เมื่อตั้งใจออกนอกบ้านแล้วทั้งทีก็อาจจะฟิกส์เวลาในการออกอย่างเต็มที่ แต่เมื่อต้องออกกำลังกายอยู่บ้าน บวกกับมีเวลาได้กินเยอะมากกว่าปกติ ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกขี้เกียจ ติดสบายจนเริ่มเคยตัว และขาดวินัยในการออกกำลังกายหรือออกน้อยลงนั่นเอง หากออกก็อาจจะออกในระยะเวลาที่น้อยลงด้วย ทำให้การออกกำลังกายอยู่กับบ้านเป็นไปอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อเทียบเท่ากับการไปออกนอกบ้านที่รู้สึกว่ามีไฟในการออกมากกว่า

และนี่ก็คือ ข้อควรระวังในการออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสียเลยก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้คุณสามารถรับมือได้ไม่ยาก เพียงหันมาปรับพฤติกรรมของตนเองใหม่ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพอย่างแท้จริงนั่นเอง

สำหรับคนที่กักตัวอยู่บ้านเพื่อหนีโควิด-19 อย่าลืมลุกขึ้นมาออกกำลังกายง่ายๆ ตามที่เราแนะนำในข้างต้น ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่แจ่มใส อีกทั้งช่วยกู้คืนหุ่นดีๆ ให้กลับมาอย่างรวดเร็ว ใครที่กำลังขี้เกียจ อย่าปล่อยให้ไขมันรุกรานร่างกายคุณ ลุกขึ้นมาออกกำลังกายแบบด่วนๆ จะดีกว่า

Categories
LIFESTYLE SHOPPING

ประกันสุขภาพของ working women ควรเลือกซื้อประกันแบบไหนดี?    

ประกันสุขภาพของ working women ควรเลือกซื้อประกันแบบไหนดี?    

( ประกันสุขภาพของ working women ควรเลือกซื้อประกันแบบไหนดี? )ประกันสุขภาพถือว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยเรื่องสุขภาพของคนทำงาน เพราะจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาพยาบาล โรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวได้ ถ้าไม่มีประกันสุขภาพเตรียมพร้อมไว้ เมื่อล้มป่วยลงคุณอาจจะต้องจ่ายเองเต็มๆ ดังนั้นถ้ามีประกันสุขภาพไว้เมื่อเกิดโรคขึ้นกับตัวคุณหรือเป็นเพียงแค่อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ก็จะได้รับการดูแลจากทางโรงพยาบาลที่คุณเลือกไว้ทันที โดยเฉพาะในกลุ่มของ Working Woman หรือกลุ่มผู้หญิงทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียดอยู่เสมอ การพักผ่อนน้อย และการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในทุกๆ วัน อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นการเลือกซื้อประกันสุขภาพจึงถือว่ามีความสำคัญต่อกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานเป็นอย่างมากเช่นกัน

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ หน้ากากอนามัยแบบผ้าดีไหม? วัสดุแบบไหนป้องกันโควิด-19 ได้จริง

เลือกซื้อประกัน

เลือกซื้อประกันสุขภาพของ Working Woman ควรเลือกทำประกันแบบใดบ้าง

Working Woman คือ กลุ่มผู้หญิงวัยทำงานที่เป็นทั้งผู้หญิงโสดกับผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวและมีบุตรแล้ว ซึ่งผู้หญิงลักษณะนี้จะเน้นเรื่องใช้ชีวิตที่สนุกไปกับการทำงาน มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และมักจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ ในวันหยุด เพราะผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบปล่อยเวลาให้ตัวเองว่างจนเกินไป ดังนั้นการเลือกซื้อประกันสุขภาพจึงควรเลือกอย่างเหมาะสมต่อทุกกิจกรรมภายในชีวิต พร้อมช่วยเสริมให้ผู้หญิงในวัยทำงานมั่นใจต่อการดูแลและรักษาสุขภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น ดังนั้นลองมาดูว่า Working Woman ควรเลือกทำประกันแบบใดบ้าง

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ โควิด19 หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทำงานที่บ้านได้ง่ายๆ ด้วย 7 แอพ

1.ประกันสุขภาพและโรคร้าย

สำหรับการทำประกันสุขภาพและโรคร้ายต่างๆ ถือว่ามีความจำเป็นอันดับหนึ่งสำหรับผู้หญิงในวัยทำงาน เพราะด้วยความเครียดและการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบในทุกๆ วัน อาจทำให้คุณละเลยต่อการดูแลสุขภาพ ที่สำคัญคืออายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันย่อมนำพาโรคต่างๆ มาด้วย ดังนั้นการวางแผนเพื่อรักษาตัวเองในอนาคตแบบไม่กระทบเงินเก็บของตัวเองมากจนเกินไป ด้วยการทำประกันนี้จะถือว่าให้ความคุ้มค่าอย่างมาก

สำหรับการทำประกันสุขภาพทั่วไปคือเมื่อคุณเจ็บป่วย หรือต้องผ่าตัดแบบฉุกเฉินก็สามารถใช้ประกันได้อย่างคุ้มค่า แต่ถ้าคุณมองว่าในอนาคตอาจจะเกิดโรคร้ายบางอย่างกับตัวคุณก็สามารถเลือกการทำประกันแบบเจาะจงหรือประกันที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายต่างๆ โดยเฉพาะ เมื่อเกิดโรคร้ายนั้นขึ้นกับคุณก็สามารถเข้าทำการรักษาตัวได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องสำรองเงินก่อนเพราะทางประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับคุณตามที่คุณได้เลือกการคุ้มครองไว้ ดังนั้นการเลือกประกันด้านสุขภาพและโรคร้ายจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก

การเลือกซื้อประกัน

2.ประกันสุขภาพแบบออมเงินได้

ประกันแบบออมเงินจะมาในรูปแบบของความคุ้มครองในเรื่องของสุขภาพไปพร้อมกับการวางแผนทางการเงิน หรืออาจจะเป็นรูปแบบของการออมเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งประกันออมเงินในลักษณะนี้จะได้รับเงินคืนเมื่อครบอายุสัญญาที่ช่วงอายุ 90 ปี และจะเน้นจ่ายเบี้ยประกันภัยในระยะสั้นเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น เมื่อครบวาระตามสัญญาแล้วคุณจะได้รับเงินคืน ไม่ว่าคุณจะเป็น Working Woman แบบสาวโสดหรือเป็นคนมีครอบครัวแล้ว ถ้าทำประกันออมทรัพย์ตัวนี้จะช่วยทำให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากขึ้น โดยตัวประกันจะมีให้เลือกเก็บเงินแบบคุ้มค่าตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ที่สำคัญคือสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ในจำนวนสูงอีกด้วย ทั้งยังให้ความคุ้มค่าต่อผู้ที่ต้องการเงินเก็บไว้ใช้ในช่วงเกษียณหรือทิ้งไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานได้เป็นอย่างดี

3.ประกันสุขภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

ประกันสุขภาพเพื่อผู้หญิงจะเน้นเรื่องโรคของผู้หญิงโดยเฉพาะและโรคที่เกิดบ่อยครั้ง เช่น โรคเนื้องอกในมดลูก, โรคกระเพาะอาหาร, โรคช่องคลอดอักเสบ, โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และโรคช็อกโกแลตซีสต์ในช่องท้อง เป็นต้น โรคเหล่านี้ถือว่าผู้หญิงจะเป็นกันจำนวนมากและเป็นบ่อยครั้งที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองจากแผนประกันสุขภาพของผู้หญิงโดยเฉพาะ จึงจะเน้นรักษาและคุ้มครองแบบตรงโรคที่สุด เมื่อต้องเข้าทำการรักษาและถ้าต้องมีการผ่าตัดก็จะจ่ายตามจริง  คุณจึงสามารถรักษาเฉพาะโรคของผู้หญิงได้อย่างไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป

4.ประกันสุขภาพสำหรับบุคคลอันเป็นที่รักแบบประกันพ่วง

สำหรับการทำประกันเพื่อบุคคลอันเป็นที่รัก จะไม่ใช่การทำประกันโดยตรงกับทางตัว Working Woman แต่จะเป็นการทำประกันให้กับบุตรหรือพ่อ-แม่ โดยจะมีทั้งแบบทำแยกออกมาและทำแบบประกันพ่วงได้ เช่น ถ้าคุณเป็นผู้หญิงทำงานที่เลือกทำประกันสุขภาพและโรคร้าย คุณก็สามารถทำประกันพ่วงในลักษณะเดียวกันกับบุตรหรือพ่อแม่ได้เช่นกัน ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับคือการจ่ายเบี้ยประกันที่ไม่สูงมาก แต่ได้รับการคุ้มครองแบบคุ้มค่าและยังนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพราะถ้าคุณเกิดต้องเสียชีวิตลงประกันจะมอบวงเงินประกันทั้งหมดที่คุณทำไว้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก แต่ถ้ากลับด้านกันกลายเป็นว่าบุคคลอันเป็นที่รักของคุณต้องสูญเสียชีวิตแทน เงินประกันตัวนี้ก็จะถูกมอบให้คุณทันที

การเลือกซื้อประกันสุขภาพ

5.ประกันสุขภาพของสาวออฟฟิศ

ประกันสุขภาพสำหรับสาวออฟฟิศที่เป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ทางบริษัทไม่มีเรื่องของสวัสดิการค่ารักษาแบบประกันกลุ่ม คุณก็จะสามารถเลือกทำประกันสุขภาพแบบมนุษย์เงินเดือนหรือสาวออฟฟิศได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งประกันตัวนี้จะไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายและเงินเก็บของตัวคุณ พร้อมให้การคุ้มครองค่ารักษาโรคสูงหลักแสนบาท แต่จะเป็นการคุ้มครองเรื่องการรักษาโรคทั่วไปแล้วเน้นในเรื่องของการให้สิทธิประโยชน์และการคุ้มครองที่เหมาะสมต่อไลฟ์สไตล์ในแบบผู้หญิง ความโดดเด่นของประกันชนิดนี้คือสามารถเข้ารักษาได้ทันทีแบบไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน ทั้งยังคุ้มครองเรื่องค่ารักษาผู้ป่วยนอก อีกครั้งละ 1,000 บาท นอกจากนี้ยังคุ้มครองไปจนถึงอุบัติเหตุฉุกเฉินที่ทางประกันจะจ่ายให้แบบครอบคลุมอีกด้วย

5 ข้อดีของการทำประกันสุขภาพเพื่อ Working Woman

การทำประกันของ Working Woman หรือผู้หญิงในวัยทำงาน จะช่วยเรื่องของความคุ้มค่าด้านการรักษาสุขภาพและการรักษาโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด มาพร้อม 5 ข้อดีที่สาววัยทำงานควรรู้ คือ

1.ลดความกังวลเรื่องค่ารักษาฉุกเฉิน

เมื่อคุณทำประกันสุขภาพแล้ว จะลดความกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้แบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยแบบกะทันหันหรือต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบฉุกเฉิน โดยทางประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายแบบครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล, ค่าห้องพัก, ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ และค่าบริการทั่วไป แม้กระทั่งการเกิดอุบัติเหตุแบบฉุกเฉิน คุณก็จะได้รับการรักษาทันที โดยมีทางประกันเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมด จึงช่วยให้คุณลดความกังวลเรื่องค่ารักษาแบบฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี

2.ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

เมื่อคุณต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีหรือเกิดอาการที่ต้องรักษาฉุกเฉิน คุณจะสามารถเข้าโรงพยาบาลและได้รับการรักษาทันที โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์ที่พร้อมรักษาคุณอย่างเต็มที่และไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยด้วยอาการใด คุณก็จะได้รับการคุ้มครองจากทางประกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคุณเข้าโรงพยาบาลทางประกันจะทำการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้แก่คุณ ทั้งยังมีค่าเดินทางในการย้ายโรงพยาบาลฟรีอีกด้วย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์และแต่ละบริษัทประกัน)

เลือกซื้อประกันworking women

3.รักษาตรงจุดด้วยแพทย์เฉพาะทาง

ถ้าคุณเลือกรักษาโรคร้ายหรือโรคแบบเฉพาะทาง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ก็ตาม รวมไปถึงการเข้าผ่าตัดฉุกเฉิน คุณจะได้รับรักษาอย่างตรงจุดที่สุดจากแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน คุณจึงสามารถเข้ารักษาได้อย่างมั่นใจและมีพยาบาลพร้อมดูแลคุณตลอดเวลาอีกด้วย

4.ออมเงินได้

เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ทำประกัน จึงเกิดเป็นรูปแบบของประกันสุขภาพที่สามารถออมเงินได้ในตัว เมื่อครบตามสัญญาแล้วคุณไม่ได้เป็นโรคร้ายใดๆ หรือไม่ได้เข้ารักษาบ่อยครั้ง คุณก็สามารถรับเงินคืนเมื่อครบสัญญาได้ทันที ซึ่งเงินตัวนี้คุณสามารถนำมาเก็บไว้เพื่อเป็นเงินในยามเกษียณหรือจะยกให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไปได้เช่นกัน

5.ลดหย่อนภาษีได้

อีกหนึ่งความคุ้มค่าของการทำประกันสุขภาพ คือ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยเฉพาะคนทำงานสามารถนำประกันสุขภาพของคนในครอบครัวและตัวคุณเองไปช่วยในการลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด ซึ่งประกันสุขภาพที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ คือ ประกันสุขภาพทั่วไป, ประกันโรคร้าย, ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพระยะยาว โดยสามารถใช้ได้ทั้งประกันของตัวคุณและประกันของคนในครอบครัวที่จะสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินปีละ 15,000 บาท เมื่อรวมเบี้ยประกันแล้วจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท จึงถือว่าเป็นสิทธิประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพที่ถือว่าให้ความคุ้มค่าสูงเลยทีเดียว

ทำประกันแบบไหนดี

ถ้าคุณเป็น Working Woman หรือผู้หญิงทำงานที่ต้องการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพให้กับตัวเอง คุณควรเลือกทำประกันสุขภาพที่จะช่วยทำให้คุณได้รับการคุ้มครองเมื่อต้องเข้ารับการรักษา พร้อมได้รับความคุ้มค่าในเรื่องของเงินประกันที่คุณสามารถเก็บรักษาไว้เป็นเงินสะสมในช่วงวัยเกษียณและยังสามารถยกเงินนี้ให้กับลูก-หลาน เพื่อเป็นทุนในการใช้ชีวิตต่อไปได้อีกด้วย

Categories
BEAUTY SHOPPING

เครื่องล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี 5 ตัว ดีต่อผิว ช่วยลดสิว และริ้วรอย  

เครื่องล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี 5 ตัว ดีต่อผิว ช่วยลดสิว และริ้วรอย  

( เครื่องล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี 5 ตัว ดีต่อผิว ช่วยลดสิว และริ้วรอย )เครื่องล้างหน้า คือ ตัวช่วยสำคัญในการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด ส่วนมากจะมาในรูปแบบของแปรงล้างหน้าที่มีทั้งแบบขนสังเคราะห์และขนซิลิโคน เพื่อทำให้การทำความสะอาดล้ำลึก ขจัดปัญหาคราบสกปรกและความมันที่อุดตันรูขุมขนได้ดี การใช้งานจะเป็นระบบอัตโนมัติแบบการชาร์จพลังไฟฟ้า เมื่อต้องการใช้เพียงแค่เปิดเครื่องก็จะสามารถล้างหน้าได้ทันที โดยที่ตัวแปลงจะทำความสะอาดผิวด้วยการสั่นสะเทือน ซึ่งเครื่องล้างหน้านั้นจะถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแปรงไฟฟ้า เพราะมีลักษณะเป็นแปลงที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เพื่อทำให้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างดีเยี่ยม

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน 5 สกินแคร์ที่จำเป็นต้องทา แม้เวลาทำงานอยู่บ้าน! 

เครื่องล้างหน้า

เครื่องล้างหน้า ดีไหม? สาวผิวแบบไหนที่ควรเลือกใช้   

เครื่องล้างหน้าหรือแปรงล้างหน้าไฟฟ้า มักจะถูกตั้งคำถามจากคนส่วนใหญ่ว่าใช้ดีจริงหรือไม่ แล้วการล้างหน้าด้วยมือตามปกติกับการล้างด้วยเครื่องนั้นแบบใดที่จะถือว่าดีกว่ากัน ซึ่งคำตอบจากผู้ที่เคยใช้จริงเมื่อใช้เครื่องล้างหน้าแล้วผิวหน้าจะสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผิวเรียบเนียนและการลงเมคอัพจะง่ายกว่าเดิม ทำให้เครื่องสำอางติดผิวดีกว่าการล้างด้วยมือ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวอุดตันและสิวเสี้ยน เมื่อใช้เครื่องล้างหน้าแล้วส่วนที่มีปัญหาจะดีขึ้นและกลายเป็นผิวที่เรียบเนียนกว่าเดิม แต่การใช้ต้องระมัดระวังไม่ควรกดเครื่องลงหน้าแรงมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบได้

สำหรับการล้างหน้าด้วยมือนั้นให้ความสะอาดได้เช่นกัน แต่จะไม่เพียงพอต่อการดึงเอาความสกปรกต่างๆ ออกจากผิวและผิวบนฝ่ามืออาจจะเสียดสีกับผิวบนใบหน้าจนก่อให้เกิดปัญหาเรื่องริ้วรอยได้ง่ายอีกด้วย แต่สำหรับเครื่องล้างหน้านั้นจะเป็นแปลงที่มีความนุ่มนวล อ่อนโยน เมื่อนำมาหมุนวนบนผิวจะทำให้ตัวแปลงสามารถขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ในรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยมและช่วยกระตุ้นผิวหน้ากับระบบไหลเวียนเลือด จึงทำให้การล้างหน้ามีความสะอาดอย่างหมดจด  สามารถลงครีมบำรุงผิวต่างๆ ได้ดีกว่าเดิม

ส่วนผู้ที่กำลังสงสัยว่าสาวผิวแบบใดที่ควรใช้ คำตอบ คือ สามารถใช้ได้กับสาวในทุกสภาพผิว เพียงแต่คุณจะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสมกับใบหน้าและใช้เครื่องแบบเบามือที่สุด ซึ่งเครื่องล้างหน้าของบางแบรนด์จะถูกทำขึ้นเพื่อให้สามารถใช้ได้แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะจะเน้นในเรื่องของการล้างทำความสะอาดผิวอย่างหมดจดแบบไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใดๆ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน หน้ากากอนามัยแบบผ้าดีไหม? วัสดุแบบไหนป้องกันโควิด-19 ได้จริง

เครื่องล้างหน้า 5 แบรนด์ 5 รุ่น ใช้แล้วดีต่อผิว ช่วยลดสิวและริ้วรอย  

สำหรับผู้ที่กำลังสนใจเครื่องล้างหน้าไฟฟ้าที่จะช่วยทำให้ผิวของคุณสะอาดอย่างหมดจด พร้อมทำให้ผิวรับครีมบำรุงได้ดีเยี่ยมกว่าเดิมและยังเป็นการช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกเครื่องล้างหน้าแบบใดที่จะเหมาะสมต่อการใช้งานและเป็นเครื่องคุณภาพ ลองมาดูเครื่องล้างหน้า 5 แบรนด์ 5 รุ่น ที่ถูกการันตีจากเว็บไซต์ต่างๆ และผู้ใช้จริงว่าใช้แล้วดีต่อผิว ช่วยลดปัญหาสิวและริ้วรอยได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเราก็มีมาแนะนำให้สาวๆ ได้ทราบแล้วดังนี้ค่ะ

1.CLARISONIC

CLARISONIC

เครื่องล้างหน้าของ CLARISONIC จะโดดเด่นในเรื่องของการขจัดสิวอุดตันและสิวเสี้ยนอย่างหมดจด ทั้งยังช่วยลดการอักเสบของสิวอุดตันได้เป็นอย่างดี การทำความสะอาดผิวของเครื่องล้างหน้าแบรนด์นี้จะเน้นขนแปรงที่มีความนุ่มและให้การกำจัดสิ่งสกปรกในระดับรูขุมขนอย่างล้ำลึก จึงทำให้ผิวหน้าใสและไร้สิว พร้อมลดอาการระคายเคืองของผิวด้วยขนแปรงที่มีความละเอียดนุ่ม สามารถขจัดคราบสกปรกจากไขมันบนใบหน้า, ฝุ่น, มลภาวะต่างๆ และเครื่องสำอางที่ตกค้างได้เป็นอย่างดี

สำหรับตัวเครื่องนั้นจะมีแปรงทรงกลมด้านบนและสามารถปรับระดับได้ มีลักษณะที่ใช้งานง่าย จับได้ถนัดมือ ใช้ในการล้างสิวเสี้ยนบนจมูกได้อย่างง่ายดาย เพราะขนแปรงมีขนาดเล็กจึงซอกซอนไปได้ทุกที่อย่างสะดวก สำหรับการใช้งานควรเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการล้างหน้าที่ดีเยี่ยมและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย

2.Kuron Mini Sonic Brush

Kuron Mini Sonic Brush

ถ้าคุณชอบใช้งานเครื่องล้างหน้าที่จับได้ถนัดมือ มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ขอแนะนำ Kuron Mini Sonic Brush ที่จะเป็นแปรงทรงกลมจับได้อย่างถนัดมือ โดยขนแปรงด้านบนมีความละเอียดและความนุ่ม สามารถซอกซอนไปได้ทุกพื้นที่บนใบหน้า จึงกําจัดสิวอุดตัน, สิวเสี้ยน และสิวหัวดำได้อย่างดีเยี่ยม สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าการล้างด้วยมือตามปกติถึง 6 เท่าด้วยกัน ขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ บนใบหน้าที่เป็นปัญหาของการอุดตันได้อย่างดีเยี่ยม ขนแปรงมาในแบบ Ultra Soft Nylon ที่มีขนาดเพียง 0.05 มิลลิเมตร จึงทำให้การทำความสะอาดล้ำลึกในระดับรูขุมขน

นอกจากนี้ ยังมีระบบการเตือนเพื่อเปลี่ยนจุดทำความสะอาดในทุกๆ 10 วินาที และจะหยุดการทำงานทันทีเมื่อครบ 1 นาที เพื่อทำให้การล้างหน้าใช้เวลาอย่างเหมาะสม ตัวเครื่องเป็นระบบกันน้ำในระดับมาตรฐาน IPX7 และมีระบบฆ่าเชื้อที่ขนแปรงด้วยแสงของ UV Sterilize ภายในตัว คุณจึงสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่เกาะอยู่ขนแปรง รุ่นนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากเพราะช่วยทำให้ผิวใสขึ้น ทำให้การทาครีมบำรุงดีกว่าเดิมและยังช่วยประหยัดเวลาในการล้างหน้าอีกด้วย

3.Mirae Thermal Sonic Facial Brush

Mirae Thermal Sonic Facial Brush

เครื่องล้างหน้ารุ่นนี้จะมาพร้อมคลื่นความร้อน ที่จะทำให้การกำจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าง่ายมากยิ่งขึ้นและยังมีด้ามจับที่ทำให้การล้างหน้าสะดวกกว่าเดิม เป็นแบรนด์คุณภาพจากประเทศไต้หวันที่เมื่อคุณนำมาทำความสะอาดผิวแล้วจะสัมผัสได้ถึงผิวที่สะอาดหมดจด เนียนนุ่ม และกระจ่างใสขึ้น ส่วนขนแปรงจะเป็นซิลิโคนที่มีความนุ่มนวลและให้แรงสั่นสะเทือน 8,000 ครั้งต่อนาที จึงให้การทำความสะอาดผิวหน้าและรูขุมขนเป็นไปอย่างล้ำลึก

ส่วนขนแปรงจะเป็นทรงรีจึงทำให้สามารถทำความสะอาดผิวช่วงข้างจมูกหรือโซนต่างๆ แบบซอกซอนได้ทุกมุมของใบหน้า ทางด้านหลังของตัวแปรงจะสามารถนวดหน้าด้วยอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส จึงทำให้การทาครีมบำรุงซึมลึกมากกว่าเดิม ดังนั้น ซื้อเพียง 1 เครื่องแต่กลับใช้งานได้ถึง 2 แบบอย่างคุ้มค่า ตัวเครื่องมีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นได้ดี ทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญคือราคาไม่สูงจนเกินไป

4.XiaoMi Inface Sonic Facial Cleansing Brush

XiaoMi Inface Sonic Facial Cleansing Brush

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Xiaomi ก็สามารถวางใจได้ในเรื่องของคุณภาพ โดยเป็นเครื่องล้างหน้าขนาดเล็กกะทัดรัดที่ถูกทางค่ายเคลมว่าเป็นรุ่นอัจฉริยะและยังถือว่าเป็นรุ่นขายดีด้วยราคาที่ถูกมาก มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบ Dual Sonic ที่มีความทันสมัย ให้การทำความสะอาดผิวที่เป็นไปอย่างล้ำลึกและเลือกใช้ขนแปรงแบบซิลิโคนเกรดพรีเมี่ยมที่เป็นเกรดเดียวกับการใช้ทางการแพทย์ ให้ความยืดหยุ่นและนุ่มเนียน จึงใช้งานได้อย่างปลอดภัยต่อผิว

ตัวเครื่องปรับระดับความแรงของการทำความสะอาดได้ถึง 3 ระดับ มีขนแปรงถึง 3 รูปแบบให้เลือก เพื่อให้สามารถใช้งานบนผิวหน้าได้อย่างเหมาะสม ตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX7 ขนแบบซิลิโคนมีความนุ่มมาก จึงไม่ทำลายผิวหน้าและสามารถดึงสิ่งสกปรกออกมาได้จริง สำหรับแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นที่มากับราคาเบาๆ นี้เอง XiaoMi Inface Sonic Facial Cleansing Brush จึงถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องล้างหน้าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

5.Foreo Luna Go

Foreo Luna Go

เครื่องล้างหน้าขนาดพกพาของ Foreo Luna Go จากประเทศสวีเดน ถือว่าได้รับความนิยมแบบสุดๆ จากผู้หญิงทั่วโลก และยังเป็นต้นแบบของเครื่องล้างหน้าด้วยหัวแปรงแบบซิลิโคนรุ่นแรก จึงทำให้กลายเป็นแบรนด์ยอดฮิตมาจนถึงปัจจุบัน  โดยหัวแปรงซิลิโคนนั้นจะมาในรูปแบบของ Ultra-Hygenic ที่นอกจากจะมีความนุ่มนวลกับผิวหน้าแล้ว ยังช่วยลดการเกิดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อต่างๆ มีคุณสมบัติที่แห้งเร็วและเลือกใช้เทคโนโลยี T-Sonic ที่จะกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ คราบความมัน และเซลล์ผิวตายแล้วที่ติดมากับขนแปรงให้หลุดออกอย่างง่ายดาย

โดดเด่นด้วยการแจ้งเตือนเพื่อการเปลี่ยนจุดทำความสะอาดบนผิวหน้าจากโหมด Cleansing ที่จะทำให้คุณสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างเหมาะสม มีระบบ Anti-Ageing ที่จะช่วยกระตุ้นผิวให้รับครีมบำรุงได้ดีกว่าเดิม จึงถือว่าเป็นเครื่องล้างหน้าแบบพกพาสารพัดประโยชน์ เมื่อใช้แล้วจะลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดีและยังช่วยยกกระชับผิวหน้าได้มากขึ้น สำหรับผู้ที่เคยใช้รุ่นนี้มาก่อนต่างก็การันตีว่าใช้ดีมาก ช่วยลดสิวอุดตัน ผิวใสขึ้น และยังทำให้ผิวดูฟู เปล่งปลั่งด้วยระบบ Anti-Ageing อีกด้วย

3 ขั้นตอนการใช้เครื่องล้างหน้า เพื่อผิวสะอาด ปลอดภัย ไร้สิว

สำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อเครื่องล้างหน้ามาใช้ หนึ่งในเรื่องที่คุณควรทำความเข้าใจ คือ ขั้นตอนของการใช้เครื่อง เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผิวได้รับความสะอาดและความปลอดภัยไปพร้อมกับการไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิว ทั้งยังเป็นตัวช่วย กระตุ้นให้ผิวรับสารบำรุงได้ดีกว่าเดิม ดังนั้นลองดู 5 ขั้นตอนการใช้เครื่องล้างหน้าอย่างถูกต้องดังต่อไปนี้

1.แต้มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงผิว

ก่อนใช้งานเครื่องล้างหน้าให้คุณพรมน้ำบนแปรงเบาๆ เพื่อให้เนื้อแปรงนุ่มนวลขึ้นและไม่บาดผิวมากเกินไป จากนั้นแต้มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงบนผิวหน้าตามจุดต่างๆ เช่น หน้าผาก, ปลายจมูก, แก้มด้านในกับแก้มด้านนอกทั้งสองข้างและคาง จากนั้นนำแปรงล้างหน้ามาหมุนวนที่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้ทั่วทั้งใบหน้า

2.เปิดเครื่องแล้วกดลงผิวเบาๆ

เมื่อเปิดเครื่องเพื่อใช้งานแล้วให้ปรับแรงสั่นสะเทือนเบาที่สุด พร้อมการกดลงบนผิวอย่างนุ่มนวลและเบามือ ค่อยๆ หมุนตัวแปรงไปตามผิวแบบวนๆ ตามส่วนต่างๆ ของใบหน้า เพื่อให้เหมือนกับการนวดผิวไปในตัว ขั้นตอนนี้จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและชำระล้างสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนได้ดีขึ้น ส่วนแรงกดที่ต้องเบามือเพื่อป้องกันเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าแตกจนอาจกลายมาเป็นปัญหาผิวได้

การล้างหน้าด้วยเครื่องล้างหน้า

3.วนแปรงบนผิวทุกส่วน

ใช้เครื่องล้างหน้าหมุนวนแปรงไปบนผิวทุกส่วนและทุกมุมบนใบหน้า โดยหมุนวนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ จนครบ 3-5 นาที จากนั้นให้ล้างหน้าให้สะอาด คุณจะสัมผัสได้ถึงผิวที่นุ่มเนียนขึ้นกว่าเดิมแล้วซับน้ำด้วยผ้าขนหนูขนนุ่มๆ ให้ใช้การซับเท่านั้น ไม่ควรเช็ดแรงๆ เด็ดขาด เพราะผิวอาจระคายเคืองหรืออักเสบได้

5 ข้อควรระวังในการใช้เครื่องล้างหน้า

แม้ว่าเครื่องล้างหน้าจะมีประโยชน์ต่อผิวของสาวๆ เป็นอย่างมาก แต่ก็ย่อมมีข้อควรระวังในการใช้งาน เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นและสร้างประโยชน์ต่อผิวคุณ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการใช้และไม่ทำร้ายผิว ดังนั้นก่อนที่คุณจะเลือกซื้อเครื่องล้างหน้าไฟฟ้ามาใช้เพื่อผิวสวย คุณควรรู้ถึง 5 ข้อควรระวังในการใช้ดังต่อไปนี้

1.ไม่ควรใช้แบบหนักมือ

ในขณะที่คุณล้างหน้าด้วยเครื่องล้างหน้าไฟฟ้า คุณควรล้างอย่างเบามือมากที่สุด ไม่ควรใช้แบบหนักมือมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เส้นเลือดฝอยบนใบหน้าแตกและเกิดปัญหาผิวได้ทันที ดังนั้นจึงควรวางไว้บนผิวเบาๆ แล้วปล่อยให้เครื่องหมุนวนไปตามส่วนต่างๆ อย่างระมัดระวัง เพื่อทำให้การล้างหน้ามีความสะอาดและไม่ทำร้ายผิวมากจนเกินไป

2.ไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวัน

การใช้งานเครื่องล้างหน้าไฟฟ้า ควรใช้เพียงแค่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวัน เพราะจะทำให้ผิวหน้าของคุณบางลงและอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องผิวอักเสบได้ง่าย ดังนั้นจึงควรใช้เครื่องล้างหน้ากับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแบบพิเศษ เช่น โคลนล้างหน้า, โฟมดีท็อกซ์ผิว และโฟมที่มีเม็ดบีทเม็ดเล็กในช่วงวันหยุดหรือเวลาว่าง เพื่อเป็นการทำความสะอาดไปพร้อมกับการผ่อนคลายผิวไปในตัว ส่วนวันธรรมดาควรใช้เป็นการล้างหน้าตามปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผิวบางแล้วกลายเป็นผิวแพ้ง่ายได้ในอนาคต

3.ทำความสะอาดให้ถูกต้อง

ตัวเครื่องล้างหน้าไฟฟ้าต้องทำความสะอาดอย่างถูกต้อง โดยให้คุณดูจากรายละเอียดที่ติดมากับตัวเครื่องว่าควรทำความสะอาดแบบใดแล้วให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่จะติดอยู่บนขนแปรงได้ เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากไม่เช่นนั้นถ้าคุณใช้ในขณะที่ขนแปรงยังสกปรกและมีเชื้อต่างๆ ติดอยู่ ก็อาจจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแย่ลงและต้องเผชิญปัญหาผิวหลากหลายอีกด้วย

การล้างหน้า

4.ใช้ในเวลาที่เหมาะสม

การใช้เครื่องล้างหน้าในแต่ละครั้ง ควรใช้ในเวลาที่เหมาะสมเพียงแค่ 3-5 นาทีต่อครั้ง ไม่ควรล้างนานไปกว่านี้ เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ง่ายและอาจจะทำให้ผิวบางลงอย่างรวดเร็ว

5.ไม่ควรใช้ในบริเวณที่เป็นสิว

หากมีสิว แนะนำว่าไม่ควรใช้เครื่องล้างหน้าขัดถูในบริเวณที่เป็นสิวอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะสิวอักเสบ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้อาการของสิวรุนแรงหนักขึ้นได้ ยกเว้นสิวหัวดำ และสิวเสี้ยนที่ควรใช้เครื่องล้างหน้าขัดถูบริเวณดังกล่าวแบบเน้นๆ เพื่อจะได้ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิวดังกล่าวให้หลุดออกได้อย่างล้ำลึก

6.เลือกเครื่องล้างหน้าที่ได้มาตรฐาน

ควรเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องล้างหน้าไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานเท่านั้น หรือเลือกเป็นรุ่นที่ได้รับการการันตีจากผู้ใช้จริงว่าใช้แล้วดี ให้ความอ่อนโยนและล้างได้อย่างหมดจด มาพร้อมเทคโนโลยีคลื่นโซนิคที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมด้วยคุณสมบัติของขนแปรงที่ควรจะมีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรียสะสม มีการทำความสะอาดง่ายและไม่ทำให้ผิวต้องเสี่ยงต่อเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกด้วยวิธีแบบไหน นอกจากการอ่านรายละเอียดของคุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ แล้ว สาวๆ ยังสามารถศึกษาได้จากรีวิวต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อเพิ่มเติมได้ค่ะ

8 วิธีดูแลผิวหน้าให้สะอาดใสไร้สิวและริ้วรอย

การใช้เครื่องล้างหน้าเพื่อช่วยลดสิวและริ้วรอยอย่างได้ผลมากยิ่งขึ้นนั้น สาวๆ ควรปฏิบัติตามทิปส์การดูแลผิวเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ รับรองผิวหน้าจะสวยใส ไร้สิวและห่างไกลจากริ้วรอยมาเยือน เรียกว่าเป็นการดูแลผิวอย่างครบสูตรเลยนั่นเอง

1.ล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ

ข้อนี้สำคัญอย่างมาก ยิ่งในช่วงที่ไวรัสโควิดและเชื้อโรคต่างๆ ระบาดอยู่รอบตัวเราเช่นนี้ด้วยแล้ว การหมั่นล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะการล้างคราบเครื่องสำอางให้หมดจด ยิ่งถือเป็นพื้นฐานด่านแรกสู่การมีผิวสวยใสไร้สิวอย่างแน่นอน

2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเหมาะสม

หากคุณมีสภาพผิวแบบใดก็ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเช่นนั้นด้วยจะดีที่สุด เช่น หากเป็นสาวผิวแห้งก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเข้มข้น หากเป็นสาวผิวมันก็ควรเลือกสกินแคร์แบบสูตรไร้น้ำมัน (Oil free) เพราะสกินแคร์แต่ละชนิดล้วนผลิตมาเพื่อบำรุงผิวแต่ละสภาพที่แตกต่างกันนั่นเอง

การล้างหน้า-พักผ่อนให้เพียงพอ

3.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานง่ายๆ สู่การมีผิวหน้าสวยสุขภาพดี ดังนั้น ควรเข้านอนเร็ว ประมาณ 4 ทุ่ม เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์ และยังซ่อมแซมผิวหรือส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่หากนอนดึกหรือนอนไม่เพียงพอ สังเกตได้เลยว่าผิวหน้าจะทรุดโทรมและหมองคล้ำง่าย ริ้วรอยแห่งวัยก็จะมาเยือนรวดเร็วด้วย

4.ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 2 ลิตร

น้ำคือ ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และยังช่วยปรับสมดุลผิวรวมถึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากผิวได้รับน้ำเข้าไปเติมเต็มอย่างเพียงพอ ยังช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ทำให้เกิดการขับของเสียตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ง่ายๆ เท่านี้ผิวสาวก็จะสวยสดใส และไร้ความแห้งกร้านอันเป็นสาเหตุของเกิดริ้วรอยได้ง่ายแล้วค่ะ

5.ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

ครีมกันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวชั้นเยี่ยมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากรังสี UV ในบ้านเราพร้อมที่จะทำลายผิวให้หมองคล้ำ ทำให้เกิดสิวและริ้วรอยตามมาง่าย ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยปกป้องและถนอมผิวให้คงความสวยสดใสและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

6.สครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ทุก 28 วัน เซลล์ผิวของคนเราจะเกิดการผลัดเซลล์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นกระบวนการดังกล่าวก็ชะลอตัวลง หรืออาจจะหยุดการทำงานไปเลยก็มี ส่งผลทำให้ผิวคล้ำไม่สวยสดใส ดังนั้น สาวๆ จึงควรหมั่นสครับผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก ช่วยเผยผิวใหม่ที่สดใสยิ่งกว่า แถมยังช่วยป้องกันการเกิดสิวและริ้วรอยได้อีกด้วย

มาส์กหน้า

7.มาส์กหน้าบ้าง

นอกจากการเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว เท่านั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ สาวๆ จึงควรหาเวลามามาส์กหน้าบ้าง โดยอาจจะมาส์กก่อนนอน สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเติมสารอาหารผิวให้เข้าไปบำรุงอย่างล้ำลึก ซึ่งการมาส์กหน้าจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสและเปล่งปลั่งในเวลาเร่งด่วนได้อย่างแท้จริง หมั่นทำแบบนี้เป็นประจำคู่กับการใช้เครื่องล้างหน้า รับรองเลยค่ะว่าผิวหน้าสาวๆ จะสวยสดใส ห่างไกลจากสิวและริ้วรอยชัวร์

8.หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้หน้าพังทุกชนิด

ปัจจัยเหล่านั้นได้แก่ การกินอาหารหวานซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย, การกินอาหารทอดๆ มันๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ง่าย, การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ตลอดจนความเครียดและการตากแดดเป็นประจำ เป็นต้น ปัจจัยเบื้องต้นเหล่านี้ล้วนทำลายผิวให้เสื่อมสภาพลงโดยเร็วทั้งสิ้น ดังนั้น ปรับพฤติกรรมของตนเองเสียใหม่ดีกว่า เพื่อที่ผิวสวยๆ จะได้คงอยู่กับเรานานๆ ยังไงล่ะ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องล้างหน้าคุณภาพ สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างตรงใจที่สุด พร้อมทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดอย่างล้ำลึก ให้ประโยชน์ต่อผิวและทำให้การลงครีมบำรุงต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  คุณสามารถเลือกใช้งาน 5 รุ่นจาก 5 แบรนด์นี้ที่จะเป็นตัวช่วยทำให้ผิวของคุณสะอาดอย่างสมบูรณ์แบบ

 

Categories
BEAUTY SHOPPING

แฮนด์ครีม ยี่ห้อไหนดี 10 ยี่ห้อ คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ในสภาวะที่ต้องล้างมือบ่อยๆ

แฮนด์ครีม ยี่ห้อไหนดี 10 ยี่ห้อ คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ในสภาวะที่ต้องล้างมือบ่อยๆ

( แฮนด์ครีม ยี่ห้อไหนดี 10 ยี่ห้อ คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ในสภาวะที่ต้องล้างมือบ่อยๆ )ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ ดังนั้นจึงต้องใช้เจลแอลกอฮอล์หรือเจลฆ่าเชื้อโรคเพื่อล้างมือบ่อยครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเมื่อต้องออกจากบ้าน แต่ถ้าต้องใช้เจลล้างมือเหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวในส่วนของมือและนิ้วมือเกิดความหยาบกร้านได้ง่าย เนื่องจากถูกดึงความชุ่มชื้นออกไปพร้อมกับเชื้อโรคต่างๆ ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด คือ การใช้แฮนด์ครีมหลังการล้างมือด้วยเจลต่างๆ ทุกครั้ง เพื่อทำให้ผิวยังคงชุ่มชื้นอยู่เสมอ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน ล้างมือบ่อยๆ สำคัญอย่างไร

Hand Cream

แฮนด์ครีม คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

แฮนด์ครีม คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมือที่ให้ความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และสารสกัดต่างๆ ที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวของมือ เพราะมือกับนิ้วมือนั้นเป็นส่วนที่ต้องหยิบจับของต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงต้องผ่านการเช็ดมือและล้างมืออยู่เสมอ เมื่อต้องถูกล้างมือบ่อยครั้งจึงทำให้เกิดปัญหาเรื่องผิวมือที่แห้งตึงและหยาบกร้าน เพราะถูกดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว แฮนด์ครีมจึงถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาผิวที่หยาบกร้านของมือได้เป็นอย่างดี พร้อมการช่วยดูแลเล็บให้มีความแข็งแรงมากขึ้น รวมไปถึงหนังหุ้มเล็บที่จะมีความแข็งแรงมากกว่าเดิม ไม่ลอกหรือเป็นแผลได้ง่าย

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน 10 แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 70% ฆ่าเชื้อโรคได้จริง แถมมือนุ่มไม่แห้งกร้าน

แฮนด์ครีม มือแห้งกร้าน

นอกจากนี้ ในกลุ่มของคนทำงานออฟฟิศที่อยู่แต่ภายในห้องแอร์ มักจะทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน ซึ่งแฮนด์ครีมนั้นจะถูกทำมาเพื่อเหมาะสมต่อผิวของมือโดยเฉพาะ ดังนั้น ถ้าคุณนำโลชั่นทาผิวหรือครีมบำรุงผิวในส่วนอื่นๆ มาทาแทนแฮนด์ครีม คุณจะสัมผัสได้ว่าจะแตกต่างกันอย่างมาก เพราะถ้าคุณใช้ครีมบำรุงผิวมาทามือจะให้ความรู้สึกของความเหนียวเหนอะหนะและมีความมันสูง จึงทำให้หยิบจับของแล้วอาจจะลื่นหลุดมือได้ง่าย แต่ถ้าเป็นแฮนด์ครีมโดยเฉพาะจะซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นได้ดี แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงทำให้การหยิบจับของใช้เป็นไปอย่างคล่องตัว ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับผิวมือแต่จะทำให้เนียนนุ่มและเป็นผิวที่สวยมากขึ้นอีกด้วย

10 ยี่ห้อแฮนด์ครีมที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ในสภาวะที่ต้องล้างมือบ่อยครั้ง

แฮนด์ครีมเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้ผิวของมือในสภาวะต้องล้างมือบ่อยครั้ง กลับมาคืนความชุ่มชื้นและมีบางสูตรใส่สารสกัดเพื่อทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส จึงทำให้ผิวมือได้ทั้งความนุ่มเนียนและความสวยงามไปในตัว พร้อมทำให้เล็บและหนังหุ้มเล็บเกิดความแข็งแรง ลดปัญหาผิวลอก หยาบกร้าน เรียกได้ว่าเป็นการสร้างประโยชน์ต่อผิวมือ นิ้วมือ และเล็บได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาแฮนด์ครีมคุณภาพจาก Drugstore และเคาน์เตอร์แบรนด์ ขอแนะนำ 10 ยี่ห้อแฮนด์ครีมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างตรงใจ ซึ่งก็มีดังนี้

1.SHISEIDO Urea 10% Hand Cream Hand and Feet

SHISEIDO

ถ้าพูดถึงครีมบำรุงมือและเท้าที่ติดอันดับต้นๆ ของ Drugstore ที่ญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่จะคิดถึง SHISEIDO Urea 10% Hand Cream Hand and Feet ที่เป็นตัวช่วยบำรุงทั้งผิวมือและผิวเท้าที่ไม่ว่าจะแห้งกร้านมากแค่ไหน ก็สามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและดีเยี่ยม เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดปัญหาผิวมือแห้งกร้านและปัญหาการหลุดลอกของจมูกเล็บ พร้อมทำให้เล็บมีความแข็งแรงและลดปัญหาส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดี มาพร้อมเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นสูง สามารถดูดซับความชื้นภายในอากาศมาเก็บไว้ที่ผิวได้อย่างง่ายดายด้วยส่วนผสมของ Urea 10% และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อทำให้ผิวใหม่มีความเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย

2.bsc Hand Cream

bsc Hand Cream

แฮนด์ครีมของ BSC ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน Drugstore ที่ญี่ปุ่น โดยมีหลากหลายกลิ่นให้เลือก เช่น กลิ่น Coconut , กลิ่นโลตัส, กลิ่น Peony และกลิ่น Siam Jasmine Rice ที่ให้กลิ่นหอมนุ่มละมุนมากับเนื้อครีมสูตรเข้มข้น ช่วยทำให้ผิวมือมีความนุ่มเนียนขึ้นจากสารสกัดธรรมชาติ ลดความหยาบกร้านของผิว ทั้งยังช่วยบำรุงเล็บให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนและซึมซาบลงสู่ผิวรวดเร็ว จึงไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ตลอดทั้งวันแบบปลอดภัย เพราะเน้นใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่ผสมผสานกับสารต้านอนุมูลอิสระ, เชียร์บัตเตอร์ และวิตามินอีที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยมและยังมีส่วนผสมของเคราติน ที่จะช่วยบำรุงทั้งผิวหนังหุ้มเล็บและเล็บให้มีความแข็งแรง ดูเป็นผิวกับเล็บสุขภาพดีอยู่เสมอ

3.Kose Hand Cream Q10

Kose Hand Cream Q10

Kose Hand Cream Q10 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์บำรุงผิวมือที่ติดอันดับต้นๆ ของ Drugstore เพราะมีส่วนผสมที่หลากหลาย พร้อมทำให้ผิวมือนุ่มเนียนและให้ประโยชน์ในเรื่องของผิวสวยกับผิวขาวสว่างใส โดยมีการแยกออกเป็นถึง 5 สูตร 5 สีด้วยกัน คือ

  • สูตรสีแดงจะเน้นเรื่องความขาวกระจ่างใสด้วยเนื้อครีมสูตรเข้มข้น ผิวมือมีความนุ่มเนียนและผิวสวยดูดี ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น พร้อมให้คุณสมบัติลดความเสื่อมของเซลล์ผิวมือ จึงให้ทั้งความชุ่มชื้น ลดความหยาบกร้าน และทำให้ผิวมือดูเต่งตึง สว่างใสไปพร้อมกัน
  • สูตรสีทองเป็นสูตรครีมบำรุงผิวที่จะเน้นเรื่องความนุ่มเนียนของผิว ลดความแห้งกร้านแบบเข้มข้นและเป็นสูตรแบบกันน้ำอีกด้วย
  • สูตรสีม่วงคือสูตร Night Renew เป็นครีมบำรุงมือแบบมาส์กไม่ต้องล้างออกที่ใช้เฉาพะในช่วงกลางคืนเท่านั้น เป็นสูตรเข้มข้นเช่นเดียวกัน โดยจะเน้นใช้ก่อนนอนในทุกๆ วัน เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไปแล้วเผยผิวใหม่ที่มีความนุ่มเนียนและเต่งตึง พร้อมมอบความกระจ่างใสทันทีหลังการใช้
  • สูตรสีส้มเป็นสูตรแบบไร้กลิ่นและมีความเข้มข้นสูง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและคนทำงานภายในออฟฟิศที่ต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน จึงทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้านได้ง่าย พร้อมส่วนผสมสำคัญอย่างโคเอนไซม์คิวเทนและวิตามินซีช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำและทำให้ผิวยังคงนุ่มเนียน เต่งตึงในเวลาเดียวกัน สูตรนี้จะมีเนื้อครีมที่ค่อนข้างบางเบาจึงไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
  • สูตรสีชมพูมาในรูปแบบเนื้อครีมเจล จึงให้การบำรุงผิวแบบเข้มข้นไปพร้อมกับการใช้ที่คล่องตัว ไม่ทำให้รู้สึกรำคาญต่อความเหนียวเหนอะหนะและเป็นสูตรบำรุงทั้งผิวมือกับเล็บแบบพิเศษ ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและยังมีสารสกัดของ Astaxantin และโคเอนไซม์คิวเทน ที่จะมาเป็นตัวช่วยลดความหยาบกร้าน หมองคล้ำ และป้องกันปัญหาฝ้าหรือกระที่เกิดขึ้นตามผิวมือได้เป็นอย่างดี พร้อมคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูผิวมือที่เสื่อมสภาพให้กลับมาเป็นผิวมือที่สวยงามอีกครั้ง

4.Avene cold cream hand cream

Avene cold cream hand cream

อีกหนึ่งแบรนด์แฮนด์ครีมตัวเด่นใน Drugstore คือ Avene cold cream hand cream ครีมบำรุงผิวมือและเล็บที่จะเป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงและป้องกันผิวจากความแห้งกร้าน พร้อมลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเล็บในทุกรูปแบบ มีส่วนผสมของ Sucralfate และกลีเซอรีนที่จะเป็นตัวช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มสมดุลของผิวด้วย Avene ที่อยู่ในน้ำพุร้อนเนบราสก้า จึงทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพสูง พร้อมให้การบำรุงที่ยาวนานตลอดทั้งวัน แม้จะล้างมือบ่อยครั้งมากแค่ไหนก็ยังคงให้ความชุ่มชื้นได้อยู่เสมอ

การทาครีมบำรุงผิวมือของ Avene cold cream hand cream เพียงหนึ่งครั้ง คุณจะสามารถล้างมือได้ถึง 10 ครั้ง โดยที่เนื้อครีมยังคงความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ผิวจึงมีความนุ่มนวลและแลดูสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน  เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวมือแห้งหยาบกร้านไปจนถึงผิวแห้งมาก รวมไปถึงผู้ที่ทำงานภายในออฟฟิศที่ต้องมีการเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน มาพร้อมคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและไม่ทำให้ผิวส่วนอื่นที่โดนมือสัมผัสเกิดปัญหาแพ้ใดๆ นอกจากนี้ยังสามารถทาครีมช่วงศอกและเข่าที่มีความแห้ง หยาบกร้านได้อีกด้วย

5.Mamonde Hand Perfume Collection

Mamonde Hand Perfume Collection

Mamonde แบรนด์ขวัญใจคนชอบซื้อผลิตภัณฑ์ Drugstore ที่ญี่ปุ่น เพราะนอกจากแพ็คเกจจะสวยโดนใจแล้ว ยังเป็นแฮนด์ครีมครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติและเป็นสูตรเข้มข้นที่จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกลิ่นของดอกไม้แท้ที่ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายไปตลอดทั้งวัน โดยใน 1 เซตจะมีด้วยกัน 3 กลิ่น คือ กลิ่น Gardenia, กลิ่นลาเวนเดอร์ และกลิ่น Rose ที่มาพร้อมผิวสัมผัสเนียนนุ่ม เมื่อทาลงสู่ผิวแล้วซึมซับเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ความนุ่มเบาสบายและกลิ่นหอมอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปตลอดทั้งวัน

6.Clinique Deep Comfort Hand and Cuticle Cream

Clinique Deep Comfort Hand and Cuticle Cream

ถ้าคุณต้องการแฮนด์ครีมที่มาจากเคาน์เตอร์แบรนด์และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการใช้ครีมบำรุงมือและเล็บ ขอแนะนำ Clinique Deep Comfort Hand and Cuticle Cream สูตรบำรุงผิวมือและจมูกเล็บที่มีความเข้มข้นสูง ให้เนื้อสัมผัสที่มีความเนียนนุ่มและซึมซาบเร็ว เข้าปกป้องผิวจมูกเล็บกับเล็บให้มีความนุ่มเนียนและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมให้ความชุ่มชื่นที่ยาวนานตลอดทั้งวัน เนื้อละมุน ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะในขณะที่ใช้ ทั้งยังช่วยป้องกันเรื่องอาการระคายเคืองที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง จึงถือว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ผิวมือและเล็บมีความแข็งแรงแบบปลอดภัยอีกด้วย

7.Lancôme Nutrix Royal Mains cream

Lancôme Nutrix Royal Mains cream

Lancôme Nutrix Royal Mains cream ครีมบำรุงผิวมือและเล็บสูตรเข้มข้นที่อุดมด้วย Royal Lipideum, ไบโอตินและวิตามินอีที่ถือว่าเป็นสารสกัดสำคัญในการบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นสูงพร้อมลดเลือนริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นกับผิวมือ จึงให้ผลลัพธ์ของผิวที่นุ่มเนียนและเต่งตึงเหมือนผิวเด็ก พร้อมเข้าบำรุงเล็บจึงทำให้เกิดความแข็งแรงทั้งจมูกเล็บและให้ความเงางามต่อเล็บได้เป็นอย่างดี ทั้งยังทำให้ฝ่ามือ ข้อมือ และผิวมือโดยรวมมีความอ่อนโยนจนน่าสัมผัส

8.Elizabeth Arden Eight Hour Cream Hand Cream

Elizabeth Arden Eight Hour Cream Hand Cream

หนึ่งในแฮนด์ครีมแบบเคาเตอร์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน คือ Elizabeth Arden Eight Hour Cream Hand Cream ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง โดยมีส่วนผสมหลักคือ Petrolatum 56.8 เปอร์เซ็นต์ และมีทั้งลาโนลิน, Mineral Oil และ Vegetable Oil รวมไปถึงการเลือกใช้ BHA Antioxidant มาเป็นตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวและช่วยกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงผิวไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะล้างมือบ่อยแค่ไหนผิวจะไม่แห้งและหยาบกร้านง่ายเกินไป ทั้งยังเป็นสูตรที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการเป็น Hand eczema ที่ช่วยลดอาการแห้ง ลดอาการคัน ป้องกันผิวจากอาการระคายเคืองและการอักเสบต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

9.Clarins Hand and Nail Treatment

Clarins Hand and Nail Treatment

Clarins ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเคาน์เตอร์แบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย สำหรับสูตร Hand and Nail Treatment จึงกลายมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แฮนด์ครีมที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะเลือกใช้การบำรุงผิวจากน้ำมัน Sesame กับ Japanese Mulberry ที่ผ่านการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญมาเป็นอย่างดี เน้นเรื่องการ เคลือบชั้นผิวด้วยแผ่นฟิล์มบางๆ จึงทำให้ความชุ่มชื้นยังคงมีอยู่เสมอตลอดทั้งวัน พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอยและลดความหยาบกร้านได้ดี ทั้งยังใช้ได้อย่างปลอดภัยแบบไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองใดๆ เป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาเต่งตึงและดูเนียนนุ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบคุณสมบัติปกป้องเล็บและทำให้เกิดความแข็งแรงมากกว่าเดิม ทั้งยังช่วยลดเลือนรอยแดงช้ำและรอยอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี ลดความอับชื้น ลดปัญหาเรื่องเชื้อรา และยังปกป้องผิวจากสภาวะต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาอาการแพ้ได้อีกด้วย

10.L’Occitane Shea Butter Hand Cream

L’Occitane Shea Butter Hand Cream

L’Occitane Shea Butter Hand Cream เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แฮนด์ครีมที่เน้นคุณค่าจากเชียร์บัตเตอร์มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ผสมสารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์, วิตามินอี และน้ำผึ้ง จึงให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของการผสมผสานกลิ่นมะลิและกลิ่นของกระดังงา เมื่อทาผิวแล้วนอกจากจะได้ความชุ่มชื้นยังได้กลิ่นที่ให้ความผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ซึ่งแบรนด์ L’Occitane นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์บำรุงผิวคุณภาพ ซึ่งในรุ่นแฮนด์ครีมเพียงแค่คุณทาผิวมือและเล็บจะสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้น เมื่อทาแล้วจะไม่รู้สึกว่าเหนียวเหนอะหนะ ไม่ก่อให้เกิดความมันจึงใช้ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้คุณสมบัติที่ทำให้ผิวมือเต่งตึงขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส พร้อมให้กลิ่นหอมอ่อนๆ และเมื่อทาแล้วก็สามารถหยิบจับสิ่งของต่างๆ ได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ทำให้ลื่นมือเลยแม้แต่น้อย

การเลือกซื้อแฮนด์ครีมที่มีคุณภาพ คุณควรดูจากส่วนผสมที่เน้นเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้น การเพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย เน้นที่มีการใช้ส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อที่คุณจะใช้งานได้อย่างไม่ต้องกังวลสารเคมีตกค้าง โดยเฉพาะในรุ่นที่มีตัวช่วยป้องกันอาการระคายเคืองจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ถือว่าเป็นแฮนด์ครีมที่มีความน่าสนใจมาก ดังนั้น ถ้าคุณกำลังสนใจจะซื้อแฮนด์ครีมที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างตรงใจ แนะนำทั้ง 10 แฮนด์ครีมคุณภาพนี้ที่จะช่วยทำให้คุณได้ผิวมือที่มีความนุ่มเนียนไปตลอดทั้งวันแม้ต้องล้างมือบ่อยครั้ง พร้อมได้ผิวและเล็บสวยตามแบบที่คุณต้องการอย่างแน่นอน

Categories
SHOPPING

เทียนหอม ยี่ห้อไหนดี 10 ยี่ห้อ สดชื่น ผ่อนคลาย มีกลิ่นอายโรแมนติก

เทียนหอม 10 ยี่ห้อไหนดี สดชื่น ผ่อนคลาย มีกลิ่นอายโรแมนติก

( เทียนหอม 10 ยี่ห้อไหนดี สดชื่น ผ่อนคลาย มีกลิ่นอายโรแมนติก ) หากสาวๆ คนไหนที่กำลังหาของสร้างบรรยากาศในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น ให้เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย มีกลิ่นหอมๆ จากดอกไม้ หรือสมุนไพรหายากเทียนหอม ย่อมช่วยตอบโจทย์ความต้องการคุณได้เป็นอย่างดี และเมื่อขึ้นชื่อว่าเทียนหอม ก็ต้องเอาไว้จุดเพื่อสร้างบรรยากาศในแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบโรแมนติก อโรม่า หรือให้อารมณ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เทียนหอมสามารถเนรมิตให้คุณได้ทั้งสิ้น สำหรับใครที่สนใจ เราก็มี 10 ยี่ห้อเทียนหอม ที่คุณควรมีไว้ติดบ้าน มาแนะนำกัน

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน ประกันสุขภาพของ working women ควรเลือกซื้อประกันแบบไหนดี?  

เทียนหอม

เทียนหอม คืออะไร

เทียนหอม คือเทียนที่เกิดจากการนำพาราฟินและไขผึ้งมาหลอมละลายรวมกัน แล้วแต่งเติมสีสัน และน้ำมันหอมระเหยลงไป จากนั้นนำไปปั้นด้วยมือหรือหล่อตามแป้นพิมพ์รูปทรงต่างๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม เช่น รูปทรงเทียนหอม ดอกไม้แห้งมีไส้ เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ของเทียนหอมจะช่วยสร้างบรรยากาศรอบตัวให้หอมสดชื่น ผ่อนคลาย และยังสามารถจุดไล่แมลงได้อีกด้วย โดยปัจจุบันเทียนหอมก็มีหลายกลิ่นที่น่าสนใจ ทั้งกลิ่นมะลิ กลิ่นวานิลลา กลิ่นกุหลาบ และกลิ่นยูคาลิปตัส ฯลฯ ซึ่งแต่ละกลิ่นล้วนมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า เทียนหอมแต่ละกลิ่น มีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์ของเทียนหอมแต่ละกลิ่น

เนื่องจากเทียนหอมนั้นมีด้วยกันหลายกลิ่น ก่อนอื่นเราจึงจะพาคุณไปดูก่อนว่าประโยชน์ของแต่ละกลิ่นมีดีแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน เครื่องล้างหน้า ยี่ห้อไหนดี 5 ตัว ดีต่อผิว ช่วยลดสิว และริ้วรอย

1.กลิ่นลาเวนเดอร์ (Lavender)

เริ่มกันที่กลิ่นโปรดของสาวๆ หลายคน อย่างกลิ่นจากดอกลาเวนเดอร์ที่มาพร้อมความสดชื่น โดยมีกลิ่นหอมที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาความเครียดและอาการซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ใครที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ กลิ่นลาเวนเดอร์จะช่วยเติมเต็มการพักผ่อนของคุณให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

2.กลิ่นกุหลาบ (Rose)

ต่อกันด้วยกลิ่นกุหลาบ ที่จะช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้คุณกับคู่รักได้อย่างลงตัว และช่วยให้คุณเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยลดความตึงเครียดด้วยกลิ่นหอมๆ จากดอกกุหลาบ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศให้กับหนุ่มๆ ได้อย่างดี เพราะกุหลาบมักถูกนำมาสกัด เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศให้กับผู้ชาย ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง

3.กลิ่นยูคาลิปตัส (Eucalyptus)

กลิ่นยูคาลิปตัส หรือที่หลายคนคุ้นเคยกับกลิ่นที่มักเป็นส่วนผสมสำคัญในยาดม โดยมีกลิ่นหอมสดชื่น ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก ไข้หวัด หรือคนที่มีปัญหาในเรื่องของภูมิแพ้ได้ ถือเป็นกลิ่นที่เหมาะกับคนที่ชอบความสดชื่นอย่างมาก

เทียนหอม 10 ยี่ห้อที่ดี

4.กลิ่นแมนดาริน (Mandarin)

ถึงแม้จะชื่อกลิ่นแมนดาริน แต่กลับมีกลิ่นที่หอมหวาน ชวนให้หลงอยู่ในภวังค์อันแสนหวาน ทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งกลิ่นแมนดาริน ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นในห้อง และทำให้การนอนหลับง่ายยิ่งขึ้น

5.กลิ่นวานิลลา (Vanilla)

มาเปลี่ยนบรรยากาศห้องเก่าๆ ให้กลายเป็นห้องหวานๆ ด้วยกลิ่นหอมจากวานิลลา ซึ่งเหมาะกับคุณผู้หญิงที่ชอบความหวานและกลิ่นหอมที่อ่อนๆ แสนโรแมนติก กลิ่นนี้จะช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกสบาย และสงบใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังทำให้อารมณ์ดี ยิ้มร่าเริงได้ทั้งวันอีกด้วย

6.กลิ่นมะกรูด (Kaffir Lime)

เอาใจคนชอบความสงบกันบ้าง กับกลิ่นมะกรูด กลิ่นที่คุ้นเคยของใครหลายคน เพราะที่บ้านต้องเคยใช้ใบมะกรูดในการเป็นส่วนผสมในการทำอาหารอย่างแน่นอน ด้วยกลิ่นนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และเติมเต็มทุกการพักผ่อนได้อย่างดี อีกทั้งช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง รู้สึกสบายใจอย่างมาก

7.กลิ่นตะไคร้หอม (Citronella)

ปิดท้ายด้วยกลิ่นที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงธรรมชาติ อย่างกลิ่นตะไคร้หอม ที่มีคุณสมบัติช่วยไล่ยุงและแมลงได้ อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สามารถปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกลิ่นจากธรรมชาติ ช่วยให้หลับสบายคลายกังวล

แนะนำ 10 ยี่ห้อเทียนหอม สดชื่น ผ่อนคลาย มีกลิ่นอายโรแมนติก

เมื่อทราบถึงกลิ่นของเทียนหอมแล้ว หลายคนเริ่มอยากได้เข้ามาช่วยเพิ่มบรรยากาศในห้องต่างๆ ของบ้าน เพราะหลายคนทำงานมาทั้งวัน ก็ต้องการมุมผ่อนคลาย และกลิ่นของเทียนหอมยังสามารถช่วยเปลี่ยนอารมณ์ที่ขุ่นมัว ให้กลับมาสดใส และคลายความเครียดได้อย่างดีอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาเทียนหอมดีๆ สักหนึ่งชิ้น ลองมาดู 10 ยี่ห้อเทียนหอมนี้กันดีกว่าค่ะ

1.Jo Malone

เริ่มกันที่แบรนด์เทียนหอมสุด Luxury จากเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหอมแบบสดชื่น ช่วยเติมชีวิตชีวาหลังจากเหนื่อยจากการทำงานมาอย่างหนัก Jo Malone ถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก เพราะมีเทียนหอมให้เลือกหลากหลายกลิ่น และมีเทียนหอม อโรม่าที่มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยสูงมาก ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย หรือใครที่ชอบกลิ่นหวานๆ ขอแนะนำกลิ่นกุหลาบ ที่จะช่วยเพิ่มบรรยากาศสุดโรแมนติกให้กับห้องของคุณ ส่วนราคาก็จัดอยู่ในเรตที่ค่อนข้างสูง แต่ให้ความคุ้มค่าถ้าเทียบกับกลิ่นและสิ่งที่คุณจะได้รับ

Jo Malone

 

2.Diptyque

แบรนด์เทียนหอมจากประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ อย่าง Diptyque ที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันหลากหลาย โดดเด่นในเรื่องของเทียนหอมอโรม่า ที่ให้กลิ่นเบาสบาย ช่วยให้คุณรู้สึกอบอุ่น อีกทั้งกลิ่นยังหอมฟุ้งกระจายได้ดีทั่วห้องเรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างมาก ซึ่งกลิ่นที่เป็นที่นิยม คือกลิ่น Baies ที่มีส่วนผสมอย่าง Berry Musky และ Floral ที่ให้กลิ่นหอมแบบผู้ดี ใครที่ได้ลองดมต่างก็หลงใหลในกลิ่นนี้

Diptyque

3.Karmakamet

ถ้าให้นึกถึงแบรนด์เทียนหอมสัญชาติไทย ที่มีดีไซน์และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายๆ คน ต้องนึกถึงKarmakamet อย่างแน่นอน เพราะสร้างชื่อเสียงในไทยมามากกว่า 15 ปี ซึ่งแบรนด์นี้โดดเด่นในเรื่องของเครื่องหอมที่มีคุณภาพสูงและกลิ่นที่หลากหลาย มาพร้อมแพ็คเกจที่สวยงาม น่าครอบครอง เหมาะจะเป็นของฝากเนื่องในโอกาสสำคัญๆ ได้ มีหลายกลิ่นเด่นๆ ให้คุณได้เลือก ทั้งกลิ่นอะโวคาโด กลิ่นผลไม้รวม กลิ่นมินต์ และอีกมากมาย

Karmakamet

 

4.Thann

สำหรับสายอโรม่าไม่ควรพลาดแบรนด์นี้! เพราะแบรนด์Thann ขึ้นชื่อว่าเป็นเทียนหอมไร้ควัน และเป็นเครื่องหอม อโรม่าที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้คุณได้อย่างดี จุดเด่นอยู่ตรงที่ไร้ควัน ทำให้การจุดกลิ่นจะฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ช่วยสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้กับคุณ นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของกลิ่นสังเคราะห์ ถือเป็นเทียนหอมที่มีความออแกนิคสูงมากThann

 

5.Cire Trudon

นี่คือหนึ่งในแบรนด์เครื่องหอมที่ถูกยกให้ดีที่สุดในโลก อย่างแบรนด์Cire Trudon ที่มีอายุมากกว่า 375 ปี ซึ่งกลิ่นของเทียนหอมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือกลิ่น Trianon ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ อีกทั้งได้ถูกจุดในพระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย นอกจากนี้กลิ่นที่คนทั่วโลกต่างหลงรัก คือกลิ่นของกุหลาบ ที่ทางแบรนด์ถ่ายทอดกลิ่นออกมาได้อย่างดี ให้ความรู้สึกสบายๆ เป็นกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึก Luxury แต่ก็สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ในเวลาเดียวกัน

Cire Trudon

 

6.Halo Craft

สำหรับใครที่มองหาเทียนหอมที่ราคาไม่สูงมาก แต่มีคุณภาพสูง และมาพร้อมดีไซน์ที่ช่วยเพิ่มระดับให้กับบ้านได้ ต้องยกให้แบรนด์Halo Craft หนึ่งในแบรนด์เทียนหอมที่มาพร้อมความร่วมสมัยและเป็นสากลอย่างมาก ผลิตจากธรรมชาติและวัตถุดิบคุณภาพสูง มาสามารถจุดได้นานถึง 80 ชั่วโมง มาพร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ และดีไซน์ที่สวยจนทำให้คุณต้องหยุดมอง ใครที่เพิ่งเริ่มจะใช้เทียนหอมยี่ห้อนี้เหมาะมาก

Halo Craft

 

7.Vuudh

สำหรับใครที่ชอบเทียนหอมกลิ่นไทยๆ เมื่อได้กลิ่นจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเก่าๆ แบรนด์ Vuudh สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี แบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทย ที่มาพร้อมการบอกเล่าเรื่องราว ด้วยกลิ่นไทยแบบสากล ที่สามารถเล่าเรื่องราวของสถานที่ออกมาผ่านน้ำหอมได้ โดยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ต้องยกให้กลิ่น Bangkok กลิ่นหอมที่รังสรรค์จากดอกไม้ เครื่องเทศและสมุนไพรไทย ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และความซับซ้อนตามสไตล์คนเมือง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่สะท้อนเรื่องราวตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยอีกด้วย ถือเป็นแบรนด์ที่น่ามีไว้ครอบครองอย่างมาก

Vuudh

 

8.Bath & Body Works

สาวๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยยี่ห้อนี้กันเป็นอย่างดี เพราะ Bath & Body Works จัดเป็นแบรนด์ที่มีเครื่องประทินผิวของสาวๆ หลายแบบ แต่น้อยคนจะรู้นักว่ามีเทียนหอมด้วย ซึ่งเทียนหอมของแบรนด์นี้ จะโดดเด่นในเรื่องของอโรม่า ช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาจับต้องได้อีกด้วย

Bath & Body Works

 

9.Innisfree

ยังคงอยู่กับแบรนด์ที่สาวๆ หลายคนน่าจะชื่นชอบ อย่างแบรนด์Innisfree ที่มีเครื่องสำอางมากมายหลายแบบให้คุณได้เลือกซื้อ ซึ่งเทียนหอมแบรนด์นี้ก็ได้ผลิตออกมาเช่นกัน ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตออกมาในช่วงวันคริสต์มาส ทำร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังของประเทศเกาหลี มาพร้อมกลิ่นหอมจากกุหลาบ เบอรรี ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย มีกลิ่นธูปและควันเบาๆ ช่วยให้คุณหลงอยู่ในภวังค์แห่งความหอมหวาน

Innisfree

 

10.Yankee

ปิดท้ายด้วยแบรนด์เครื่องหอมที่ดังที่สุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คุณสามารถหาซื้อได้จากช็อป Yankee ในประเทศไทย มาพร้อมกลิ่นอันหลากหลาย คุณสามารถเลือกกลิ่นจากอารมณ์และความรู้สึกได้ ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ อีกทั้งสามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งกลิ่นยอดนิยม คือกลิ่น Midsummer’ s Night ที่มีส่วนผสมของมัสก์ เซจ พัทโชลีและไม้มะฮอกกานี ที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และกระตุ้นการทำงานของคุณได้อย่างดี

Yankee

 

ประโยชน์ของการใช้เทียนหอม

หลายคนคิดว่าเทียนหอม มีประโยชน์เพียงแค่ส่งกลิ่นที่หอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง หรือสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายเพียงชั่วคราว แต่รู้หรือไม่! เทียนหอมมีประโยชน์มากกว่านั้น หากมองลึกลงไปจะเห็นว่าเทียนหอม ถือเป็นอโรม่าเทอราพี (Aromatheraphy) ที่ช่วยบำบัดจิตใจจากสภาวะความเครียด หรือความเศร้าที่กำลังเผชิญอยู่ในช่วงเวลานั้น อีกทั้งยังช่วยสร้างปฏิกิริยาตอบสนองต่อร่างกายที่เกิดจากกลิ่นของเทียนหอมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น คลายความเมื่อยล้าได้ ซึ่งประโยชน์ของเทียนหอมมีมากกว่าที่คุณคิด ลองมาดูกันค่ะ

1.บำบัดจิตใจและร่างกาย

เทียนหอม สามารถสกัดกลิ่นจากธรรมชาติได้ ซึ่งดอกไม้หรือสมุนไพรบางชนิด มีสรรพคุณที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น มะกรูด มะลิ ลาเวนเดอร์ หรือกุหลาบ เมื่อคุณได้รับกลิ่นเข้าไปร่างกายจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทำให้ความรู้สึกสดชื่น หัวสมองปลอดโปร่ง นอนหลับสบายมากขึ้น และที่สำคัญบรรเทาความเครียดหรือปัญหาที่กำลังเจอ ณ ขณะนั้นได้ ทำให้เทียนหอมกลายเป็นศาสตร์บำบัดร่างกายและจิตใจชนิดหนึ่ง

2.ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

เรื่องกลิ่นเป็นปัญหาที่ใครหลายคนก็คาดไม่ถึง หากคุณต้องมีแขกสำคัญมาบ้าน แต่ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ การฉีดสเปรย์ปรับอากาศอย่างเดียวคงไม่พอ ลองใช้เทียนหอมจุดเพื่อกลิ่นที่หอมและฟุ้งกระจายมากกว่าเดิม จะช่วยดับกลิ่นที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดีได้ และยังสร้างกลิ่นใหม่ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิม

3.สร้างบรรยากาศภายในห้อง

สำหรับสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่มีนัดเดตครั้งสำคัญ การสร้างบรรยากาศภายในห้องถือว่าสำคัญมาก และเทียนหอมคืออาวุธสำคัญที่จะเปลี่ยนคืนธรรมดา ให้กลายเป็นคืนแสนโรแมนติกได้ เพียงคุณจุดเทียนหอมกลิ่นกุหลาบเบาๆ ปล่อยให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง กลิ่นของกุหลาบจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและไม่เกร็งจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นอารมณ์รักให้คุณได้อย่างเต็มที่

เทียนหอม 10 ยี่ห้อไหนดี

4.จุดเพื่อไล่ยุงหรือแมลงได้

อีกหนึ่งข้อดีที่หลายคนคาดไม่ถึง คือเทียนหอมสามารถจุดไล่แมลงหรือยุงได้ เพราะการจะให้จุดยากันยุง อาจส่งผลให้ร่างกายของคุณเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีได้ ดังนั้นลองเปลี่ยนมาจุดน้ำหอมกลิ่นตะไคร้ จะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และสามารถไล่ยุงร้ายให้ออกไปได้ทันที ใครที่เบื่อกลิ่นของยากันยุงแบบเดิมๆ ลองมาเปลี่ยนมาจุดเทียนหอมช่วยสร้างบรรยากาศ แถมไล่ยุงให้คุณอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อเทียนหอม กลิ่นแบบไหนเหมาะสมใช้ในกรณีใดบ้าง?

เมื่อทราบถึงกลิ่นและประโยชน์ของเทียนหอมกันแล้ว หลายคนเริ่มให้ความสนใจและอยากมีเทียนหอมติดบ้านไว้เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังสงสัยว่ากลิ่นของเทียนหอม เหมาะสมจะใช้ในกรณีใดบ้าง เพราะกลิ่นมีหลากหลายเต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกลิ่นมีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากไม่อ่านหรือทำความเข้าใจก่อนซื้อ อาจใช้งานผิดประเภทได้ เราเลยมีวิธีการเลือกซื้อเทียนหอมให้เหมาะสมต่อการใช้งาน มาฝากกัน

1.กลิ่นมะกรูด กลิ่นตะไคร้

สำหรับใครที่ทำร้านอาหาร และประสบปัญหาห้องน้ำมีกลิ่นแรง ลองวางเทียนหอมกลิ่นมะกรูด และตะไคร้ไว้ กลิ่นของเทียนหอมจะช่วยดับกลิ่นสกปรกได้ แถมยังช่วยฟุ้งกลิ่นหอมจากธรรมชาติ ช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และเกิดความรู้สึกสงบได้อย่างบอกไม่ถูก นอกจากนี้ยังช่วยกลบกลิ่นท่อได้อีกด้วย

2.กลิ่นกุหลาบ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นมะลิ

ไม่มีกลิ่นไหนที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องนอนของคุณให้โรแมนติกได้เท่ากลิ่นนี้อีกแล้ว หลายคนประสบปัญหาการพักผ่อนกลิ่นของลาเวนเดอร์จะช่วยให้คุณหลับสบาย ส่วนกลิ่นของกุหลาบจะทำให้คุณผ่อนคลายและมีอารมณ์ทางเพศเพิ่มมากขึ้น ทางด้านกลิ่นมะลิจะช่วยทำให้คลื่นสมองภายในได้รับการพักผ่อน

3.กลิ่นโรสแมรี่ กลิ่นไม้

เพราะห้องทำงานคือมุมสงบภายในบ้าน คุณควรทำให้กลิ่นห้องนี้รู้สึกผ่อนคลาย เงียบสงบ และช่วยสร้างสมาธิได้อย่างดี และกลิ่นของไม้จะทำให้คุณสามารถโฟกัสกับงานที่ทำได้มากขึ้น

4.กลิ่นส้ม กลิ่นฟรุตตี้ กลิ่นผลไม้รวม

ในส่วนของห้องนั่งเล่น ควรใช้กลิ่นที่ให้ความสดชื่น จะช่วยทำให้แขกที่มาเยี่ยมบ้าน รู้สึกผ่อนคลายและไม่เกร็งจนเกินไป อีกทั้งช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้ทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข

เทียนหอม 10 ยี่ห้อที่ดี

วิธีจุดเทียนให้หอมฟุ้ง

หลายคนมีเทียนหอม แต่กลับประสบปัญหาจุดเท่าไหร่ กลิ่นก็ไม่ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องตามที่หวังไว้ อาจเป็นเพราะคุณจุดผิด หรือวางตำแหน่งในห้องไม่ดี ทำให้กลิ่นกระจายได้ไม่ทั่วถึง เราเลยนำทริคดีๆ ที่จะช่วยให้คุณจุดเทียนหอมแล้วฟุ้งไปทั่วห้อง มาบอกกัน

1.จุดในพื้นที่อากาศถ่ายเท

สิ่งสำคัญที่จะทำให้เทียนหอมฟุ้งกระจายได้ดี คือคุณต้องจุดในที่อากาศถ่ายเท และควรจุดเทียนหอมใน 1 วัน เพียง 2- 3 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ควรจุดนานเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้

2.ไม่ควรวางไว้ใกล้ที่ปรับอากาศ

ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศมักมีเครื่องฟอกอากาศติดมาด้วย ทำให้การจุดเทียนหอมของคุณถูกดูดกลืนกลิ่นไปจนหมด ทำให้คุณแทบไม่ได้กลิ่นความหอมจากเทียนเลย ทางที่ดีวางให้ห่างจากเครื่องปรับอากาศ หรือจุดทิ้งไว้ก่อนสัก 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงค่อยเปิดเครื่องปรับอากาศ

3.เล็มไส้เทียนให้ยาวไม่เกิน 5 มม.

หากกลิ่นของเทียนหอมไม่ฟุ้งกระจาย หรือเริ่มมีควันมากขึ้น อาจเป็นเพราะไส้เทียนของคุณยาวเกินไป ทางที่ดีควรเล็มไส้เทียนให้ยาวไม่เกิน 5 มิลลิเมตรเพื่อไม่ให้เกิดควัน นอกจากนี้ควรทำให้ไส้เทียนอยู่ตรงกลางภาชนะ เพื่อที่จะได้เกิดการเผาไหม้อย่างเต็มที่

4.ใส่ภาชนะป้องกันน้ำตาเทียน

หากใช้เทียนหอมแบบก้อน ควรวางไว้ในแก้วใส เพื่อป้องกันน้ำตาเทียนและเปลวเทียนที่จะถูกลมพัด

5.ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน

เมื่อจุดเทียนหอมเสร็จเรียบร้อย ควรปิดฝาให้สนิทและเก็บอย่างมิดชิดไม่ควรให้โดนแสงแดด และความร้อน หลังจากที่คุณเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี

สำหรับใครที่อยากได้เทียนหอมไปช่วยสร้างบรรยากาศสุดผ่อนคลายที่บ้าน อย่าลืมไปเลือกซื้อตาม 10 ยี่ห้อที่เราได้แนะนำไป รับรองเลยว่ากลิ่นของเทียนหอมจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยบรรเทาความเครียดได้อย่างดี หรือใครที่อยากเพิ่มความโรแมนติกกับคู่รัก ก็สามารถใช้เทียนหอมในการเพิ่มอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Categories
BEAUTY SHOPPING

10 แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 70% ฆ่าเชื้อโรคได้จริง แถมมือนุ่มไม่แห้งกร้าน

10 แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 70% ฆ่าเชื้อโรคได้จริง แถมมือนุ่มไม่แห้งกร้าน

( 10 แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 70% ฆ่าเชื้อโรคได้จริง ) สถานการณ์โรคโควิด-19 สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบนโลกได้อย่างชัดเจน นอกจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงทุกวันแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของคนก็เปลี่ยนไป รวมไปถึงพฤติกรรมที่ต้องมีการปรับตัวต่อสู้กับโรคระบาดนี้ ทำให้หลายๆ คน เริ่มพกอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส ซึ่งนอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว แอลกอฮอล์เจลล้างมือ คือไอเท็มที่คุณควรพกติดตัวไว้ตลอดเวลาเช่นกัน เพราะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทันที อีกทั้งยังพกพาสะดวก ซึ่งใครที่กำลังมองหาแอลกอฮอล์เจลล้างมือกันอยู่ วันนี้เราก็คัดมาแนะนำกันแล้วกับ 10 ยี่ห้อ รับรองฆ่าเชื้อโรคได้จริง แถมยังถนอมมืออีกด้วย

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน ไวรัสโคโรน่า กับ 5 ไอเท็มที่สาวๆ ควรพกไว้ใช้ลดความเสี่ยงเมื่ออยู่นอกบ้าน

1.Betadine Natural Defense

Betadine Natural Defense

เริ่มต้นด้วยเจลล้างมือกับยี่ห้อที่การันตีเรื่องฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% อย่างเบตาดีน ที่หลายคนมักใช้ฆ่าเชื้อโรคบนบาดแผลกันเป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้เบตาดีนได้ผลิตเจลล้างมือสูตรใหม่ ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งมานูก้า ซึ่งจะทำให้คุณได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำผึ้ง แถมยังช่วยถนอมและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 70% โดยจะช่วยฆ่าเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.99% แถมเนื้อเจลเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พกติดตัวไว้กันไวรัสโควิด-19 ได้แน่นอน

ราคา : 89 บาท ขนาด 50 ml.

ช่องทางการซื้อ : Tesco Lotus, Top supermarket, Lazada, Shopee

2.Mybacin alcohol Cleansing Gel

Mybacin alcohol Cleansing Gel

ต่อกันด้วยแบรนด์ยาอมแก้เจ็บคอที่ทุกคนคุ้นเคย อย่าง Mybacin ที่เริ่มผลิตเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 70% เพื่อช่วยป้องกันและยับยั้งไวรัส ไข้หวัด และเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน แถมมีกลิ่นหอมของแอปเปิล ที่ทำให้คุณไม่ได้กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป เนื้อเจลมีความใสและอ่อนโยนต่อผิวอย่างมาก เพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ และกลีเซอรีน ช่วยทำให้เจลซึมซับเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว และมีฤทธิ์ช่วยบำรุงผิวคุณให้ชุ่มชื้นอีกด้วย เรียกว่าเป็นเจลล้างมือที่คุณภาพเยี่ยม แถมพกพาสะดวกอีกด้วย

ราคา : 50 บาท ขนาด 60 ml.

ช่องทางการซื้อ : ร้านขายยาบางแห่ง, Lazada, Shopee, Officemate

3. 3M Alcohol Gel

3M Alcohol Gel

หลายคนน่าจะคุ้นๆ กับหน้ากากอนามัย 3m ที่โดดเด่นในเรื่องของการป้องกันฝุ่นละอองและเชื้อไวรัสกันมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่า 3m ได้ผลิตแอลกอฮอล์เจลล้างมือ 70% ด้วย โดยมาพร้อมสูตรที่จะช่วยป้องกันแบคทีเรียและยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งที่ลอยอยู่ในอากาศและผ่านจากการสัมผัสได้ถึง 99.99% จุดเด่นสำคัญ คือเนื้อเจลมีค่า pH ระหว่าง 6.5-8.5 ทำให้เนื้อเจลมีความใส และซึมซับได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมขนาดใหญ่ที่ให้คุณใช้ได้ทั้งครอบครัว

ราคา : 200 บาท ขนาด 400ml.

ช่องทางการซื้อ : ร้านขายยาบางแห่ง, Lazada, Shopee

4.Kirei Kirei เจลล้างมือ คิเรอิ

Kirei Kirei เจลล้างมือ คิเรอิ

แบรนด์แอลกอฮอล์เจลล้างมือที่น่ารักที่สุด ต้องยกให้กับแบรนด์จากญี่ปุ่น อย่าง คิเรอิ ที่มาพร้อมโลโก้สุดคิ้วท์ และเป็นเจลล้างมือแบบไม่ต้องล้างออก ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างดี และมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 70% ช่วยฆ่าเชื้อโรคและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมความหอมละมุนตามแบบฉบับของญี่ปุ่น เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆ นอกจากนี้เนื้อเจลยังมีความใส แถมบางเบา ซึมเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่ทำให้คุณรู้สึกระคายเคือง อีกทั้งยังอ่อนโยนและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวคุณได้อย่างดี

ราคา : 40 บาท ขนาด 50 ml.

ช่องทางการซื้อ : Top supermarket, Lazada, Shopee

5.ศิริบัญชา แอลกอฮอลล์เจล

ศิริบัญชา แอลกอฮอลล์เจล

ขึ้นชื่อว่าศิริบัญชา คุณจงมั่นใจได้เลยว่าเจลล้างมือสูตรนี้ จะช่วยฆ่าเชื้อโรคให้คุณได้ทันที โดยสามารถยับยั้งป้องกันและลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% เนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ตัวเจลแห้งง่าย ไม่รู้สึกเหนียวมือ อีกหนึ่งจุดเด่นนอกจากฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว ยังสามารถฆ่าเชื้อราได้เช่นเดียวกัน  นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำความสะอาดและเช็ดสิ่งของต่างๆ ได้อีกด้วย ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าศิริบัญชาขวดเดียวเอาอยู่

ราคา : 250 บาท ขนาด 400 ml.

ช่องทางการซื้อ : ร้านขายยาบางแห่ง, Lazada, Shopee

6.เจลล้างมือ Dettol

เจลล้างมือ Dettol

มาถึงยี่ห้อน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ อย่างเดทตอล ที่กำลังขาดตลาดอย่างมาก นอกจากสบู่และน้ำยาล้างห้องน้ำ เจลล้างมือคือสิ่งที่คุณห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด! เพราะสามารถป้องกันและลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.99% โดยผ่านมาตรฐานรับรองจาก IMA อีกทั้งยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมสดชื่น ตัวเจลให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้แบบสบายผิว

ราคา : 55 บาท ขนาด 50 ml.

ช่องทางการซื้อ : Top supermarket, Lazada, Shopee

7.เจลล้างมืออนามัย ภูมิฤกษา

เจลล้างมืออนามัย ภูมิฤกษา

ข้ามมาทางฝั่งเจลล้างมือสมุนไพรกันบ้าง กับยี่ห้อ “ภูมิฤกษา” ที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 70% สามารถฆ่าเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยยับยั้งการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้ ตัวเจลยังมีส่วนผสมของคอลลาเจน วิตามินอี และว่านหางจระเข้ ที่จะช่วยให้ผิวของคุณได้รับความชุ่มชื้นและช่วยบำรุงผิวได้ ถือเป็นเจลล้างมือที่ทำมาเพื่อตอบสนองคนผิวแพ้ง่ายได้อย่างแท้จริง

ราคา : 69 บาท ขนาด 50 ml.

ช่องทางการซื้อ : www.poompuksa.com, Lazada, Shopee

8. DShow เจลล้างมือแอลกอฮอล์

DShow เจลล้างมือแอลกอฮอล์

ต่อด้วยเจลล้างมือคุณภาพคุ้มราคา อย่างแบรนด์ “Dshow” ที่มาพร้อมส่วนผสม Isopropyl หรือแอลกอฮอล์ที่ใช้ในทางการแพทย์โดยมีความเข้มข้นมากถึง 99.99% เจลชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเชื้อไวรัส และแบคทีเรียทุกชนิด หมดกังวลเรื่องเชื้อโรคที่จะเข้ามารุกรานบนผิวของคุณได้เลย นอกจากนี้ เนื้อเจลยังมีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบและกลิ่นวนิลาอ่อนๆ ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ทำร้ายผิวของคุณอย่างแน่นอน สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว และทุกเพศทุกวัย

ราคา : 85 บาท ขนาด 500 ml.

ช่องทางการซื้อ : Lazada, Shopee

9.เจลล้างมือ Common Ground

เจลล้างมือ Common Ground

สายออแกนิค และผิวแพ้ง่าย ห้ามพลาด! กับเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 70% จากแบรนด์ Common Ground ที่ผลิตจากประเทศออสเตรเลีย มีค่า PH 5.5 ช่วยฆ่าเชื้อโรคและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถทำความสะอาดผิวของคุณได้อย่างล้ำลึก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสารสกัดจากน้ำมันอะโวคาโด ช่วยบำรุงมือและผิวของคุณให้ชุ่มชื้น อีกทั้งยังมีวิตามิน E ที่บำรุงให้ผิวของคุณไม่แห้งและเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ ที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและรู้สึกสบาย

ราคา : 120 บาท ขนาด 250 ml.

ช่องทางการซื้อ : Lazada, Shopee

10.เจลล้างมือ Harvie

เจลล้างมือ Harvie

ปิดท้ายด้วยแอลกอฮอล์ล้างมือที่คุณน่าจะเคยได้ใช้ตามโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเจลล้างมือสูตรอ่อนโยนจากแบรนด์ Harvie ที่จะช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดย Harvie เป็นเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% และมีส่วนผสมของสารไตรโคลซาน (Triclosan) ที่มีประสิทธิภาพช่วยในการต่อต้านจุรินทรีย์และเชื้อโรคตามผิวหนังโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ รวมถึงยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้และกลีเซอรีนที่จะช่วยเพิ่มความหอม และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องล้างน้ำ

ราคา : 79 บาท ขนาด 65 ml.

ช่องทางการซื้อ : Lazada, Shopee, Officemate

วิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เจลล้างมือ

เมื่อทราบถึงยี่ห้อของแอลกอฮอล์ล้างมือเรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยและตั้งคำถามว่า จะมีวิธีการเลือกซื้อเจลล้างมืออย่างไรให้ได้ของมีคุณภาพ เพราะตอนนี้เจลล้างมือได้กลายเป็นของสำคัญที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา เพื่อช่วยป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ในท้องตลาดมีเจลล้างมือที่ถูกผลิตออกมาวางขายมากมายหลายแบบ โดยมีทั้งของที่มีคุณภาพและของที่ไม่มีประสิทธิภาพ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อเจลที่ได้คุณภาพให้คุณได้ทราบกันดังนี้

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน หน้ากากอนามัยแบบผ้าดีไหม? วัสดุแบบไหนป้องกันโควิด-19 ได้จริง

1.ควรมีแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70%

  • หากคุณกำลังมองหาเจลล้างมือที่ได้คุณภาพ ให้คุณสังเกตที่ตัวผลิตภัณฑ์ว่ามีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ถึง 70% หรือไม่ เพราะความเข้มข้นในปริมาณนี้จะช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคได้อีกด้วย แต่หากมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่น้อยกว่านั้น จะทำให้ประสิทธิภาพของเจลล้างมือ ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้เท่าที่ควร

2.ฉลากต้องได้มาตรฐาน

  • ทุกวันนี้มีเจลแอลกอฮอล์จากหลายแบรนด์เข้ามาวางขายเต็มไปหมด ดังนั้นคุณต้องพิจารณาให้ดีว่าตัวสินค้ามีฉลากกำกับอยู่หรือไม่ โดยบนฉลากต้องระบุยี่ห้อ ส่วนผสม ปริมาณสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิต เลขทะเบียนสินค้า วันหมดอายุ และชื่อที่ตั้งของผู้ผลิต ยิ่งหากมีการผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ก็ยิ่งจะช่วยการันตีความปลอดภัยให้คุณได้ 100% ดังนั้น ก่อนเลือกซื้ออย่าลืมอ่านฉลาก เพื่อช่วยให้คุณได้รับสินค้าที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพอีกด้วย

ล้างมือด้วยแอลกฮฮล์

3.เลือกขนาดตามความเหมาะสม

  • ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ คุณควรเลือกซื้อเจลล้างมือที่เหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น หากคุณต้องเดินทางตลอดเวลาและต้องการความสะดวกในการพกพา แนะนำให้ใช้เจลล้างมือที่มีขนาดไม่เกิน 50 ml. แต่หากคุณต้องการใช้ภายในบ้าน หรือให้คนในครอบครัวใช้ ขนาด 400 ml. – 600 ml. เป็นขนาดที่กำลังพอดี เนื่องจากสามารถใช้ได้ทุกคน

4.บรรจุภัณฑ์ปิดสนิท

  • ข้อนี้สำคัญอย่างมาก เพราะหากบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ใช้วัสดุที่ได้คุณภาพ หรือมีการปิดไม่สนิท อาจทำให้แอลกอฮอล์เกิดการระเหยออกมา ทำให้ความหนืดและความเข้มข้นจางลงได้ หรือเลวร้ายกว่านั้น เจลแอลกอฮอล์อาจหกเลอะเทอะเต็มกระเป๋าคุณไปหมด ดังนั้นควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ซีลแน่นหนา ปิดสนิท เพื่อคงประสิทธิภาพของแอลกอฮอล์ไว้ให้ได้นานที่สุด

5.เลือกเนื้อเจลตามสภาพผิว

  • หากรู้ตัวว่าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกเจลล้างมือที่เป็นแบบใส และมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และกลีเซอลีน ที่จะช่วยบำรุงให้ผิวมือของคุณไม่ให้แห้ง และยังช่วยเติมความชุ่มชื้นผิวได้เป็นอย่างดีพร้อมกัน แต่สำหรับใครที่ชอบความสะอาดแบบเต็มร้อย อาจเลือกใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่เยอะขึ้น ตัวเนื้อเจลมีความข้น แต่สามารถกำจัดและฆ่าเชื้อโรคให้คุณได้แบบ 99.99% ดังนั้นให้เช็กสภาพผิวของคุณให้ดีก่อนการเลือกซื้อทุกครั้ง เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน

ข้อควรระวังในการใช้

จริงอยู่ที่เจลล้างมือจะมาพร้อมคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อโรคได้สูง เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นมากถึง 70% ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็อาจจะเกิดความรู้สึกระคายเคืองผิวได้ ดังนั้น เราจึงมีข้อควรระวังในการใช้มาฝากกันดังนี้

1.ผิวอาจแพ้รุนแรงได้

  • หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าเป็นคนผิวแพ้ง่าย อาจทำให้การใช้แอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูง ส่งผลให้ผิวเกิดการแพ้ได้ แนะนำให้คุณลองทดสอบการแพ้ของผิวด้วยการใช้เจลล้างมือก่อน ด้วยการบีบเจลเล็กน้อยแล้วทาที่ท้องแขน รอ 5 นาที หากไม่มีปฏิกิริยาการแพ้เกิดขึ้น แสดงว่าคุณสามารถใช้เจลนั้นได้ แต่หากมีอาการคันหรือมีตุ่ม แสดงว่าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย และหากใช้เจลก็อาจจะเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ ดังนั้นจงหยุดใช้ดีกว่า หรืออาจต้องเลือกใช้เจลล้างมือที่เหมาะสมโดยหันมาใช้เจลสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวเด็กแทน

2.หลีกเลี่ยงเปลวไฟ

  • เจลล้างมือมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูงมาก หากคุณใช้ในปริมาณที่มากเกินไป ย่อมทำให้เกิดการติดไฟได้ หากคุณเอามือไปใกล้กับประกายไฟหรือเปลวไฟ ทางที่ดีเมื่อทาเจลล้างมือแล้ว ก็ให้หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้กับไฟนั่นเอง
    เพื่อความปลอดภัยสำหรับตัวคุณ

เจลล้างมือ

3.ไม่สูดดมแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน

  • หากคุณใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อาจมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นได้ แต่หากเป็นส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว ไม่ควรสูดดมเป็นอันขาด เพราะหากคุณสูดดมนานเกินไป อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ รวมไปถึงส่วนต่างๆ ในร่างกายได้

4.ไม่ควรใช้กับเด็กทารก

  • เพราะเด็กทารกมีผิวพรรณที่บอบบางและอ่อนโยน การใช้เจลแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวของเด็กเกิดการระคายเคือง
    และอาจทำให้ผิวในบริเวณที่ทาเกิดความกระด้างได้ ทางที่ดีผู้ปกครองควรป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาติดสู่ลูกได้จะดีที่สุด

วิธีสังเกตแอลกอฮอล์เจลของปลอม ดูได้อย่างไร

หลายคนซื้อแอลกอฮอล์เจลล้างมือติดบ้านไว้หลายขวด หลายแบรนด์ เพราะในเวลานี้เจลล้างมือหาซื้อได้ยากมาก เมื่อเจอยี่ห้อไหนก็ตามในร้านขายยาจึงซื้อมาก่อน บางครั้งจึงไม่แน่ใจว่าเจลที่เราซื้อมาเป็นของปลอมหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ คือแอลกอฮอล์ที่เป็นของจริง จะมีชื่อเรียกว่า “เอทิลแอลกอฮอล์” ส่วนของปลอม เรียกว่า “เมทิลแอลกอฮอล์” สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเช็กเจลล้างมือว่าเป็นของปลอมหรือไม่ เรามีทริคดีๆ มาฝากกัน ดังนี้ค่ะ

1.นำไปวัดที่จุดเดือด

  • เริ่มกันที่วิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าแม่นยำที่สุด กับการนำไปวัดจุดเดือด ด้วยการใส่ในภาชนะทางเคมี ตั้งไฟ แล้วใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ รอสักพักจนแอลกอฮอล์ถึงจุดเดือด ซึ่งเอทิลแอลกอฮอล์ จะมีจุดเดือดอยู่ที่ 78 องศาเซลเซียส แต่ตรงกันข้ามหากเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ จุดเดือดจะอยู่ที่ 65 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

2.เช็กด้วยกลิ่น

  • ต่อด้วยวิธีง่ายๆ สำหรับชาวบ้านหรือคนที่ไม่มีเครื่องมือมาก หากคุณมีเจลล้างมือลองดมกลิ่นโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ หากเป็นแอลกอฮอล์จริง จะมีกลิ่นที่แรงมากกว่าแอลกอฮอล์ปลอม เพราะเมทิลแอลกอฮอล์จะดมแล้วรู้สึกแสบจมูก อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าเป็นวิธีที่ไม่ควรทำบ่อย เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกาย

3.ทำปฏิกิริยาไอโอโดฟอร์ม

  • วิธีนี้ค่อนข้างยาก แต่สามารถวัดผลได้เกือบ 100% เพียงคุณนำตัวอย่างแอลกอฮอล์ ใส่หลอดทดลองและเติมสารละลายไอโอดีน เช่น เบตาตีน ผสมกับโซดาไฟ และแช่หลอดในอ่างน้ำอุ่น เสร็จแล้วลองเขย่าหลอด แล้วทิ้งไว้ 2 นาที หากแอลกอฮอล์เป็นของจริง จะตกตะกอนสีเหลือง แต่หากเป็นของปลอมจะไม่ตกตะกอนใดๆ

4.เช็กเปลวไฟ

  • ปิดท้ายด้วยวิธีที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงน้ำแอลกอฮอล์ทั้ง 2 แบบใส่ภาชนะ แล้วลองจุดไฟ คุณจะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าหากมีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ ไฟจะลุกโชนและเป็นสีเหลืองมากกว่า แต่หากเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ จะติดไฟได้น้อยกว่า และไฟจะเป็นสีฟ้ามากกว่า

อันตรายหรือผลเสียจากการใช้แอลกอฮอล์เจลปลอม

เมื่อทราบถึงวิธีการตรวจสอบแอลกอฮอล์เจลล้างมือเรียบร้อยแล้ว หลายคนก็ย่อมสามารถตรวจสอบเจลของตัวเองได้ แต่หากคนที่ยังไม่เคยตรวจสอบแล้วมีอาการระคายเคืองตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจเป็นได้ว่าคุณได้ใช้เจลล้างมือปลอมไปแล้วนั่นเอง ดังนั้น เราลองมาเช็กอาการกันหน่อยดีกว่า ลองดูว่าคนใกล้ตัวคุณหรือแม้แต่ตัวคุณเองมีอาการเหล่านี้หลังใช้เจลหรือไม่ ถ้าหากมีให้รีบนำเจลล้างมือไปทิ้งโดยด่วน

1.คลื่นไส้ อาเจียน

  • เมทิลแอลกอฮอล์ จะมีกลิ่นที่แรงมากกว่าเอทิลแอลกอฮอล์ เมื่อสูดดมเข้าไปจะรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียนได้ หากดมเป็นระยะเวลานาน เพราะแท้จริงเจ้าเอทิลแอลกอฮอล์ มักใช้ในกระบวนการเคมีของเฟอร์นิเจอร์ ทาสีไม้ เป็นต้น ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายอย่างมาก

การล้างมือ

2.ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา

  • หากสูดดมกลิ่นของเมทิลแอลกอฮอล์ เป็นระยะเวลานานจะรู้สึกแสบจมูก และอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจให้มีปัญหาได้ ทั้งคัดจมูก หลอดลมอักเสบ และหายใจลำบาก เป็นต้น

3.ท้องเสีย ตาบอด

  • หากเผลอเอามือที่มีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์เข้าปาก หรือปนเปื้อนอาหาร หากสะสมในร่างกายเป็นปริมาณมาก อาจส่งให้ท้องเสียได้ หรือร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ จนถึงตาบอดได้

สำหรับใครที่ต้องเดินทางเป็นประจำ ควรพกเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 70% ขึ้นไป เพื่อช่วยป้องกันคุณจากไวรัสโควิด-19 และเชื้อโรคต่างๆ และใครที่ไม่มั่นใจว่าเจลที่ใช้อยู่มีคุณภาพหรือไม่ ลองนำไปเช็กตามวิธีที่เราได้แนะนำไป จะช่วยให้คุณเกิดความสบายใจและปลอดภัยต่อร่างกาย อย่าปล่อยให้การดูแลตัวเองของคุณ ต้องส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าเดิม ดังนั้นจงเลือกซื้อและสังเกตเจลล้างมือที่ได้คุณภาพ เพียงเท่านี้นอกจากจะห่างไกลจากเชื้อ Covid-19 แล้วก็ยังไม่เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากการใช้เจลล้างมือปลอมอีกด้วย