Categories
BEAUTY

วิธีแก้ผมมัน แชร์เทคนิคแก้ไข ปัญหากวนใจของสาว ๆ

คาดว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ยิ่งอายุเยอะ เซลล์ในร่างกายก็ยิ่งเสื่อมสภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 100 เปอร์เซ็นต์ และกับหนังศีรษะก็เช่นเดียวกัน ที่ยิ่งอายุมากขึ้น ผิวหนังของศีรษะก็มีโอกาสสูงขึ้นที่จะปล่อยน้ำมันออกมามากเกินไป และทำให้ผมมันง่ายในที่สุด โดยปกติแล้วหนังศีรษะจะทำการปล่อยน้ำมันออกมาเพื่อทำให้หนังศีรษะชุ่มชื้น และผมมีความแวววาวเงางาม แต่ในกรณีที่หนังศีรษะทำงานผิดปกติ และปล่อยน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น ก็ทำให้หนังศีรษะมีโอกาสที่จะเกิดสิวได้ หากปล่อยไว้ในระยะยาวมีโอกาสที่จะทำให้รากผมอ่อนแอ และทำให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมา เรียกได้ว่าเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อมาเรื่อย ๆ ในบทความชิ้นนี้มีวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหนังศีรษะให้หายมัน และลดความมันจากเส้นผมกันได้ด้วย ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีเทคนิค วิธีแก้ผมมัน อะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันได้เลย


เปิดสาเหตุผมมัน พร้อม วิธีแก้ผมมัน

วิธีแก้ผมมัน

ก่อนที่จะไปลงลึกถึงเทคนิคในการแก้ผมมันกัน อยากจะพาทุกคนมารู้ถึงต้นตอของปัญหาศีรษะมันที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ทำให้ผมมันกันเสียก่อน จริง ๆ แล้ว สาเหตุผมมัน นั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยที่อาจเกิดความผิดปกติของร่างกาย รวมถึงรูปแบบในการใช้ชีวิตด้วย ลองเช็กลิสต์กันดูว่าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรม หรือข้อสังเกตตามนี้หรือไม่

  1. ศีรษะมัน เกิดจากต่อมไขมันบนศีรษะทำงานมากเกินผิดปกติ ทำให้ศีรษะมันง่าย และผมมันเร็ว
  2. สระผมบ่อยเกินความจำเป็น
  3. ไม่สระผสมจนทำให้บนศีรษะมีแต่สิ่งสกปรก
  4. อยู่ในสถานที่ที่อับชื้น
  5. จัดแต่งทรงผมถี่เกินไป

ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดผมมัน และอาจเป็นสาเหตุผมร่วงด้วย หากเข้าใจได้ว่าคุณมีผมมันที่เกิดมาจากสาเหตุใดก็ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น เพราะสาเหตุของผมมันนั้นมีหลากหลาย และสภาพหนังศีรษะแต่ละบุคคลล้วนไม่เหมือนกัน เบื้องต้นคุณจำเป็นต้องเข้าใจต้นตอของปัญหาให้ดีเสียก่อน


7 วิธีแก้ผมมัน แก้ไขอย่างไรดี

วิธีแก้ผมมัน

เมื่อทุกคนได้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผมมันกันไปแล้ว ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการรวบรวม วิธีแก้ผมมัน ให้อยู่หมัด ซึ่งได้มัดรวม วิธีแก้ผมมัน มาได้มากถึง 7 ข้อด้วยกัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนมี ปัญหาหนังศีรษะมันง่าย แก้ไขปัญหาผมมันเร็วได้เป็นอย่างดี แต่จะมีวิธีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้ ดังนี้


  1. เปลี่ยนปลอกหมอนให้เป็นนิสัย

หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการซักปลอกหมอนเท่าที่ควร เนื่องจากถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดูสะอาด และใช้งานแค่ในห้องเท่านั้น แต่นี่เป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ เพราะยิ่งนับวัน ปลอกหมอนเหล่านั้นได้สะสมสิ่งสกปรกไว้มากมาย เมื่อคุณใช้หมอนรองศีรษะ ทั้งผม และศีรษะของคุณจะหมักหมมไปด้วยสิ่งสกปรกที่อาจอุดตัน และทำให้เกิดสิวบนหนังศีรษะไปด้วย


  1. สระผมให้สะอาดทุกครั้ง

สำหรับการสระผมที่ถูกต้อง ทุกครั้งที่ทำการชโลมแชมพูจำนวนมากบริเวณเส้นผม และหนังศีรษะ ควรจะต้องล้างออกให้หมด เพื่อไม่ให้เหลือคราบสิ่งสกปรก และแชมพู ใครที่ชอบใช้ครีมนวดผมด้วย วิธีในการใช้ครีมนวดผมที่ถูกต้องคือการชโลมเนื้อครีมนวดกับเส้นผม อย่าให้น้ำหนักของครีมนวดไปอยู่บนหนังหัวเป็นหลัก และควรใช้เวลาในการล้างครีมนวดออกสัก 1 นาที เพื่อให้มั่นใจได้ว่าครีมนวดได้ถูกล้างไปหมดแล้วจริง ๆ


  1. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมหลายตัวพร้อมกัน

ในการตกแต่งทรงผมนั้นไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกันหลายตัวจนเกินไป เพราะยิ่งมีการใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัว หนังศีรษะจะปล่อยน้ำมันออกมาเพื่อบำรุงหนังศีรษะ แน่นอนว่าผลข้างเคียงคือผมมันง่ายกว่าปกติด้วยนั้นเอง


  1. เลือกสูตรแชมพูให้เหมาะสม

โดยส่วนมากแล้วแชมพูโดยทั่วไปมักจะมีส่วนผสมของออยล์ และซิลิโคน ซึ่งส่วนผสมนี้จะทำให้ผมมันง่าย สำหรับคนที่รู้ตัวว่าหนังศีรษะมันง่าย และผมบาง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจะตอบโจทย์ และปลอดภัยมากกว่า เพื่อเลี้ยงการกระตุ้นต่อมน้ำมันบนหนังศีรษะ


  1. อาหารเสริม

จริง ๆ แล้วเลือกรับประทานอาหาร และการใช้วิตามินเสริม ก็สามารถแก้ไขปัญหาหนังศีรษะมันได้ด้วย โดยเฉพาะกับวิตามินเอ และการเลือกรับประทานอาหารประเภทโปรตีน อย่างประโยชน์ของคอลลาเจน ที่จะเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก เสริมความแข็งแรงของรากผม และยังเป็นการช่วยลดความมันของหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี


  1. เลือกน้ำอุ่นสระผม

การเลือกน้ำอุ่นในการสระผมจะเป็นการเปิดรูขุมขนของหนังศีรษะ และทำให้เลือดสามารถสูบฉีดได้เต็มที่ อย่างไรก็ดีควรจะสระผมด้วยน้ำอุ่นสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์กำลังดี เพราะหากคุณเลือกใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่นต่อเนื่องอาจจะทำให้ผิวหนังของศีรษะนั้นแห้ง และน้ำมันดีหายไป ทำให้ผมเปราะบาง และอ่อนแอได้ด้วยเช่นเดียวกัน


  1. สครับหนังศีรษะบ้าง

ถ้าคุณสังเกตตัวเอง และพบว่าศีรษะมันง่าย อีกทั้งยังมีสิวบนศีรษะอยู่บ่อยครั้ง การสครับหนังศีรษะบ้างก็เป็นทางออกที่ดูดีไม่น้อย เพราะทั้งสิ่งสกปรก และไขมันบนศีรษะได้ทำการเกาะเป็นชั้นเหนือผิวหนังศีรษะ การได้สครับผลัดเซลล์ที่ตายไปแล้วนั้นจะทำช่วยแก้ไขปัญหาศีรษะมันง่าย และผมมันบ่อยได้อย่างเห็นผล รวมไปถึงกระตุ้นหนังศีรษะเป็นวิธีทำให้ผมยาวเร็วด้วย


ผมมันระหว่างวัน แชร์เทคนิคแก้ไขแบบเฉพาะหน้า

วิธีแก้ผมมัน

สำหรับคนที่ต้องการ วิธีแก้ไขปัญหาผมมันเร่งด่วน ก่อนต้องไปทำงานสำคัญ ๆ แน่นอนว่ามีวิธีรัดจบปัญหาผมมันได้แบบที่หลายคนคาดไม่ถึง ซึ่งในเนื้อหาส่วนนี้ได้มัดรวมทุกเทคนิคแก้ผมมันฉบับไม่ต้องกลับบ้านไปสระผมมาฝากกัน จะมีเทคนิคอะไรต้องรู้เพิ่มในคู่มือดูแลผมบ้าง ไปติดตามกันต่อได้เลย


แป้งเด็ก

นี่ถือเป็นวิธีแก้ขัดผมมันที่ผู้หญิงทุกคนน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพียงแค่เทแป้งเด็กมาสักฝ่ามือ ก่อนที่จะนำไปลูบบริเวณผมที่มัน เพื่อให้แป้งเด็กนั้นซับความมันออกไป แค่นี้ง่าย ๆ ก็ทำให้ผมของคุณพร้อมสยายเฉิดฉายได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องผมมันได้อีกสักพัก


ดรายแชมพู

ใครที่ไม่สะดวกเทแป้ง หรือพกแป้งเด็กติดกระเป๋า การมีดรายแชมพูก็เป็นอีกทางเลือกที่ขอแนะนำ วิธีการทำงานของดรายแชมพู และแป้งเด็กนั้นเหมือนกันคือการลดความมันได้แบบเร่งด่วน เพียงแต่เปลี่ยนจากแป้งมาเป็นรูปแบบของสเปรย์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการใช้งาน วิธีการใช้ดรายแชมพูก็แสนง่าย เพียงแค่ฉีดสเปรย์ไปยังบริเวณที่ผมมัน และใช้มือสาง หรือขยี้ผมเล็กน้อย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนของการลดความมันจากเส้นผมได้แล้ว


กระดาษซับมัน

ทุกคนจะต้องเคยใช้กระดาษซับหน้ามันกับผิวหน้า แต่อาจจะไม่เคยใช้กระดาษซับมันกับหนังศีรษะแน่ ๆ ต้องบอกก่อนว่าสามารถลดความมันได้จริง ๆ แต่วิธีการใช้จะแตกต่างจาก 2 ไอเทมก่อนหน้า เพราะการซับความมันนี้จะไม่ได้ใช้กับเส้นผมโดยตรง แต่เป็นการซับบริเวณโคนของเส้นผม หรือพื้นที่ที่มีความมันมาก ๆ เท่านั้น เพื่อให้พื้นที่ที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากถูกกระดาษซับมันดูดน้ำมันส่วนเกินออกไปนั้นเอง


และนี่ก็เป็นวิธีในการจัดการกับปัญหาผมมันทั้งในแง่ของการจัดการกับต้นตอปัญหา และวิธีรับมือแบบเร่งด่วน หวังว่าทุกคนจะได้รับสาระ และ เทคนิคในการรับมือกับปัญหาหนังศีรษะมัน กว่าปกติได้ไม่มากก็น้อย เพราะนี่ไม่ใช่แค่ปัญหาของภาพลักษณ์เท่านั้น อย่างที่ได้บอกไปว่าหากปล่อยไว้ และไม่ดูแลหนังศีรษะให้กลับมาผลิตน้ำมันได้ปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยอย่างการเกิดสิวบนหนังศีรษะได้ อีกทั้งยังทำให้รากผมของคุณอ่อนแอ และเปราะบางเป็นพิเศษ ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือ ผมร่วงง่าย หนึ่งในปัญหาโลกแตกของใครหลายคน


อ้างอิง

Categories
BEAUTY

ประโยชน์ของคอลลาเจน ตัวช่วยชะลอวัยและผิวอ่อนเยาว์

สุขภาพร่างกายเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ปัจจุบันนี้ผู้คนทุกวัยหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย การมองหางานอดิเรกเพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิต มองหาความสุขที่มากกว่าการทำงานที่รีบร้อน เคร่งเครียดในแต่ละวัน โดยปัจจุบันจะพบได้เลยว่าช่องทางสื่อออนไลน์ โลกโซเชียลมีเดีย หรือ มีแต่กระทั่งรายการทีวี จะพบได้เลยว่ามีประเภทอาหารเสริมที่น่าสนใจนั่นก็คือ “คอลลาเจน” ซึ่งแน่นอนเลยว่าถูกพูดถึงเกี่ยวกับประโยชน์ที่เป็นตัวช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ผิวอ่อนกว่าวัย รวมไปถึงการดูแลรักษาภายในร่างกายไม่ว่าจะเป็น การเสริมโครงสร้างของข้อต่อ แถมยังช่วยลดปัญหาอาการปวดข้อต่อของผู้สูงอายุ ด้วยประโยชน์ที่มากมายของโปรตีนชนิดนี้ทำให้กลายเป็นหนึ่งสินค้ายอดฮิตที่ขายดีมากในตอนนี้ ด้วยกระแสที่มาแรงวันนี้พวกเราจึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ทุกคนได้เข้าใจพร้อมทำความรู้จักเกี่ยวกับคอลลาเจนมากขึ้น ทั้ง ประโยชน์ของคอลลาเจน คอลลาเจนช่วยอะไร และ วิธีการรับประทาน พร้อมการดูแลให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมออีกด้วย ซึ่งรายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมดจะมีดังต่อไปนี้ 


ทำความรู้จักคอลลาเจนคืออะไร 

ประโยชน์ของคอลลาเจน

ก่อนอื่นต้องขอพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จัก พร้อมกับทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “คอลลาเจน” ให้มากขึ้น เพราะความหมายอาจจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่มีข่าวลือหลายด้าน ทั้งการโฆษณาที่เกินจริง ทำให้โปรตีนเสริมชนิดนี้ถูกมองว่าผลิตออกมาเพื่อขาย รวมไปถึงความน่าเชื่อถือที่ในปัจจุบันนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ผลิต ชนิดของคอลลาเจน รวมไปถึงการได้รับมาตรฐานจากทาง องค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งจะต้องเป็นคอลลาเจนที่ถูกต้องตามกฎหมาย  มีสถานที่ผลิต แบรนด์แท้ชัดเจน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่จะทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับ “คอลลาเจน” มากขึ้นจะมีรายละเอียดที่แบ่งออกเป็นหัวข้อให้เข้าใจง่ายดังต่อไปนี้ 


4 ชนิดคอลลาเจนที่สามารถพบได้ในร่างกาย 

ประโยชน์ของคอลลาเจน

ภายในร่างกายของเรานั้น จะพบ “คอลลาเจน” ได้บ่อยอยู่ 4 ชนิด นั่นก็คือ ชนิดที่ 1, 2,3 และ 5 ซึ่งปกติแล้วร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองพร้อมทั้งสลายคอลลาเจนได้เองในจุดที่สมดุลกัน แต่เมื่อเข้าวัย 40 ปีแล้วนั้น ร่างกายจะมีการสร้างเท่าเดิม แต่การสลายนั้นเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เช่น แสงแดด หรือ สารเคมี ที่จะต้องเจอในแต่ละวัน ซึ่ง 4 ชนิดของคอลลาเจนที่สามารถพบได้ในร่างกายจะมีดังต่อไปนี้  

  1. คอลลาเจนชนิดที่ 1 หรือ Collagen Type l จะเป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกายของเรา ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น การสมานแผล อีกทั้งยังพบได้ในเส้นผม ผิวหนัง รวมทั้งกระดูกด้วย 
  2. คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือ Collagen Type ll จะเป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่น มากกว่าชนิดที่ 1 ซึ่งจะพบมากในกระดูก กระดูกอ่อน รวมทั้งข้อต่อด้วย ซึ่งจะมีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนนั่นเอง
  3. คอลลาเจนชนิดที่ 3 หรือ Collagen Type III จะพบได้ในบริเวณหลอดเลือด กับ กล้ามเนื้อ
  4. คอลลาเจนชนิดที่ 5 หรือ Collagen Type V ที่สามารถค้นพบได้ในบริเวณชนิดเดียวกันกับชนิดที่ 1 หรือ ใต้ผิวหนัง โดยจะพบในเนื้อเยื่อของทารกระหว่างตั้งครรภ์ด้วย 

สิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับ “คอลลาเจน” นั่นก็คือ ประโยชน์ของโปรตีนชนิดนี้สามารถช่วยให้ผิวหนัง รวมไปถึงระบบข้อต่อ กล้ามเนื้อภายในร่างกาย ทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วจุดเด่นของคอลลาเจนจะช่วยทำให้ผิวหน้า ผิวกาย ดูชุ่มชื้น ผิวแข็งแรง ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เป็นแผลเป็นจะลดลง อีกทั้งในส่วนของกระดูกอ่อน คอลลาเจน จะมีบทบาทเป็นอย่างมากในการช่วยให้กระดูกแข็งแรง ลดการปวดของข้อต่อ ช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้ผมยาวเร็ว ที่สำคัญใครที่เล็บฉีกง่ายแสดงว่าร่างกายของคุณขาดคอลลาเจนเป็นอย่างมาก ที่สำคัญจุดเด่นของคอลลาเจนที่ถูกพูดถึง พร้อมทั้งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั่นก็คือ จะช่วยดูแลผิวให้อ่อนเยาว์นั่นเอง 


ประโยชน์ของคอลลาเจน ช่วยดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ได้อย่างไร

ประโยชน์ของคอลลาเจน

สิ่งที่โดดเด่นของการรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำนั้นก็คือ การได้ประโยชน์ของผิวที่ดูอ่อนเยาว์ เพราะมีคอลลาเจนที่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวฟู ยืดหยุ่น ริ้วรอยดูจางลง พร้อมทั้งการเกิดริ้วรอยใหม่ค่อนข้างยาก ซึ่งจะหมายความได้ว่าผิวของคุณจะดูแข็งแรงขึ้น ไม่แห้งเสียง่ายนั่นเอง แต่ในหัวข้อนี้จะขอพูดถึงประเด็นของข้อดีที่ “คอลลาเจน” ช่วยดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ได้ดังนี้

ประโยชน์โดยตรงของคอลลาเจน

ประโยชน์โดยตรงของคอลลาเจนจะเน้นจุดเด่นไปในเรื่องของการปรับสมดุลผิว ให้ดูมีความชุ่มชื้นกระจ่างใส ไม่ว่าจะเป็นผิวกาย หรือ ผิวหน้า ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าหากมีการรับประทานคอลลาเจน การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั่นก็คือผิวที่คุณเองจะรู้ได้ทันทีเพียงแค่สัมผัสว่ามีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ซึ่งอย่าลืมว่าฮอร์โมนในร่างกายมีการปรับเปลี่ยนในช่วงอายุ 40 ปี ที่จะมีการสร้างคอลลาเจนน้อยลง แต่การย่อยสลายเท่าเดิม ดังนั้นการรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำจะช่วยให้ผิวดูเด็ก ดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง 

คอลลาเจน และ วิตามิน C 

สำหรับคอลลาเจน จะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย เกิดริ้วรอยยาก ซึ่งนี่คือคุณสมบัติโดยตรงที่ถูกพูดถึงไปแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่มีการรับประทานคู่กับ วิตามินซี ที่จะเป็นการผนวกกำลังทำให้สามารถดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น รวมทั้งดีขึ้นด้วย หลาย ๆ คนอาจจะใช้สูตรนี้ในการเร่งให้ร่างกายมีสุขภาพผิวที่ดี อีกทั้งวิตามิน C ยังมีประโยชน์อีกหลายด้านที่ร่างกายควรได้รับเช่นกัน 

ซึ่งนี่คือ 2 เหตุผลที่ทำให้ “คอลลาเจน” กลายเป็นอาหารเสริมที่ช่วยดูแลผิวกันได้อย่างต่อเนื่อง แต่การรับประทานคอลลาเจนเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้ช่วยให้ผิวกลับมาสดใส หรือ ผิวดูชุ่มชื้นได้เร็วขึ้น เพราะจะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน รวมทั้งการรับประทานอาหารที่เป็นการเร่งให้สุขภาพผิวดีขึ้นหรือไม่ ถ้าหากว่าคุณเองยังคงมีพฤติกรรมการทำร้ายผิว หรือ ได้รับสารเคมีเป็นประจำ การเห็นผล กับ การทานคอลลาเจนนั้น อาจจะเกิดขึ้นได้ช้ากว่าผู้ที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอ แต่สำหรับบางรายก็ไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งท้ายบทความนี้พวกเราก็ขอแนะนำกับวิธีที่จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะทำให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณเองทำแล้วจะได้ประโยชน์กับตัวเอง


แนะนำวิธีเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

ประโยชน์ของคอลลาเจน

เมื่อคุณเองกลายเป็นคนที่หันมาดูแลสุขภาพผิวเป็นประจำแล้ว การรับประทานอาหารเสริม การรับประทานคอลลาเจน เป็นเพียงแต่ส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วยังคงมีอีกหลายวิธีที่ช่วยทำให้คอลลาเจนอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น สูญเสียน้อยลง ซึ่งพวกเราได้รวบรวมวิธีการเสริมคอลลาเจนให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอมาด้วยกันทั้งหมด 5 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่คุณเองสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

1.รับประทานอาหาร เสริมคอลลาเจน 

สำหรับการเสริมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย นอกจากการรับประทานคอลลาเจนสกัดเม็ดแล้ว ยังสามารถรับประทานอาหารที่มีโปรตีนชนิดนี้สูงได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, น้ำซุปกระดูก,ไข่ขาว, ผักใบเขียว, คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก รวมไปถึงผักผลไม้ที่มีสีแดง อย่างที่ทราบกันดีเลยว่าทุกอย่างที่ถูกนำมาประกอบอาหารคุณเองอาจจะได้รับประทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากเสริมคอลลาเจนการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ร่างกายแข็งแรงด้วยเช่นกัน 

นอกจากเรื่องนี้แล้ว การได้รับวิตามิน เกลือแร่ หรือ สารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอ ก็จะทำให้การดูดซึมของคอลลาเจนนั้นดีขึ้น เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ดื่มน้ำให้ครบค่าเคลี่ยววันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพร่างกาย ระบบอวัยวะภายในที่จะสามารถทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นด้วยนั่นเอง 

2.เลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด

สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวทำลายคอลลาเจนในผิวนั่นก็คือ “แสงแดด” แน่นอนเลยว่าการทำงาน หรือ การใช้ชีวิตประจำวัน เราเองจะหลีกเลี่ยงเจ้าสิ่งนี้ไปได้ยาก แต่ทว่าในปัจจุบันมีครีมกันแดด ที่เป็นตัวช่วยในการป้องกันผิวไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย โดยจะขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50+ ขึ้นไป ก็จะช่วยป้องกันแดดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

แต่ในปัจจุบันช่วงเวลาตั้งแต่ 10 โมงเช้า ไปจนถึง 5 โมงเย็น เป็นช่วงที่แสงแดด กับ อุณหภูมิค่อนข้างสูง ควรที่จะใส่เสื้อแขนยาว หรือ ใส่เสื้อผ้าปิดบังให้มากที่สุดเพราะบางครั้งอากาศที่ร้อนจัดก็จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นได้นั่นเอง 

3.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มทำร้าย “คอลลาเจน” 

เมื่อเราหันมาดูแลผิวอย่างจริงจังก็ควรที่จะงดเครื่องดื่มที่ทำร้าย “คอลลาเจน” ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ รวมทั้งน้ำอัดลมด้วย เนื่องด้วยเหตุผลที่มีคาเฟอีน กับ แอลกอฮอล์ เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ผิวไม่สดใส อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราในอนาคตด้วยเช่นกัน 

แต่ก็มีข้อแม้ในกรณีที่ดื่มกาแฟ ก็ควรที่จะไม่ใส่นม หรือ น้ำตาล เพราะจะยิ่งทำให้สุขภาพร่างกายได้รับน้ำตาล หรือ ไขมันมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกายด้วยล่ะก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า ผลเสียต่อ “คอลลาเจน” ด้วย

4.เติมคอลลาเจนให้ผิวด้วย ครีมทาผิว 

หลังจากที่เราได้พูดถึงข้อห้าม กับ พฤติกรรมที่ทำร้าย “คอลลาเจน” ไปแล้วนั้น คราวนี้จะขอพูดถึงวิธีการเติมคอลลาเจนบำรุงผิวกันบ้างนั่นก็คือ “การใช้ครีมทาผิว” นั่นเอง แน่นอนเลยว่าในปัจจุบันนี้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด โลชั่นทาผิว มอยส์เจอไรเซอร์ ก็จะมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหน้า ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง มัน 

หลังจากอาบน้ำอุ่น หรือ อาบน้ำ ร่างกายจะสูญเสียความชุ่มชื้น ดังนั้นแล้วการทาโลชั่นจะช่วยให้ผิวยังคงนุ่มชุ่มชื้น เมื่อการสร้างคอลลาเจนจากการรับประทานอาหาร หรือ การรับประทานอาหารเสริมเป็นสิ่งที่คุณเองทำอยู่แล้ว การดูแลผิว ปกป้องด้วยครีมทาผิวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการสลายของคอลลาเจนนั่นเอง 

5.มลภาวะ สารเคมี ครีมอันตราย 

ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแสงแดดไม่ใช่เป็นปัจจัยที่ทำร้ายผิวเพียงอย่างเดียว ยังคงมีมลภาวะทางฝุ่น ที่พบได้ในปัจจุบัน ดังนั้นอาจจะทำให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเกิดอาการระคายเคือง เป็นผื่นคันได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงในสถานที่ที่มีฝุ่นควัน หรือ มลภาวะมาก ๆ เป็นสิ่งที่ต้องหนีให้ไกล 

การใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาต่าง ๆ ภายในบ้านมีส่วนที่ทำร้ายผิวทางอ้อมได้เช่นกัน เพราะความเป็นกรด เป็น ด่างของสารเคมีนั้น อาจจะทำให้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เกิดอาการระคายเคืองได้เช่นกัน นี่คือสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการใช้เป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ไม่มั่นใจให้ใช้ถุงมือยางในการสัมผัสกับน้ำยาต่าง ๆ เหล่านี้ 

การเสริมสร้างคอลลาเจน บางครั้งคุณเองก็ต้องตรวจสอบเรื่องผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวด้วยว่าเหมาะกับผิวหรือไม่ โดยทุกคนจะต้องทราบก่อนเลยว่า ผิวของคุณอยู่ในหมวดไหน ? เป็นคนผิวแห้ง,ผิวมัน หรือ ผิวแพ้ง่าย การเลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับผิวก็จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้มากเลยทีเดียว 


สำหรับข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้ จะบอกได้เลยว่าประโยชน์ของคอลลาเจนนั้นมีหลากหลาย ไม่ได้มีจุดเด่นแค่ในเรื่องของการดูแลรักษาผิว หรือ การช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์เท่านั้น เพราะคอลลาเจนคือกาวที่จะช่วยเสริมโครงสร้างในส่วนของข้อต่อ กระดูก หลอดเลือด เรียกได้ว่าทั่วร่างกายของเรานั้นมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบเกือบทั้งหมด แน่นอนเลยว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้เชื่อเลยว่าจะเข้าใจเกี่ยวกับโปรตีนชนิดนี้มากขึ้น โดยในปัจจุบันการซื้อสารสกัด อาหารเสริมคอลลาเจนมารับประทานก็ต้องมีการตรวจสอบเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ การได้รับมาตรฐานการผลิตด้วย อย่างไรก็ตามการเห็นผลลัพธ์ของการกินก็ขึ้นอยู่กับการดูดซึมของแต่ละคน ซึ่งจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ การรับประทานคอลลาเจนอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะพฤติกรรมในการใช้ชีวิต การเสริมคอลลาเจนด้วยวิธีอื่น จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้คุณเห็นผลจากการรับประทานได้รวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง 


อ้างอิง:

คอลลาเจนคืออะไร ? กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์.  https://www.nestle.co.th/th/nhw/3e/eat/eating-tips-to-boost-collagen-production

พลิกผิวให้ใสเด้งเหมือนวัยเยาว์ ด้วยคอลลาเจน ไฮโดรไลเซต. https://www.megawecare.co.th/content/5183/youthful-skin-by-collagen-hydrolysate

5 วิธีคงคอลลาเจนให้ผิวเด้งสวยอ่อนเยาว์ ไม่อยากแก่ไว ห้ามพลาด. https://www.the1.co.th/en/the1today/articles/9276

9 อาหารจากธรรมชาติ ช่วยเติมคอลลาเจนให้ชั้นผิว. https://www.sophistmedic.com/content/5249/9-อาหารจากธรรมชาติ-ช่วยเติมคอลลาเจนให้ชั้นผิว